คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ.การประมง 2490 มาตรา 30(2) ให้อำนาจรัฐมนตรีหรือข้าหลวงประจำจังหวัดโดยอนุมัติรัฐมนตรีที่จะกำหนดมิให้ใช้เครื่องมือทำการประมงอย่างหนึ่งอย่างใด ในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด ถ้าผู้ใดใช้เครื่องมือที่ห้ามนั้นทำการประมงก็ย่อมมีผิด และถูกริบเครื่องมือนั้นโดยศาลจะใช้ดุลยพินิจไม่ริบ ไม่ได้
แต่ถ้ารัฐมนตรีประกาศห้ามมิให้ทำการประมงด้วยเครื่องมือใดใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด เว้นแต่เครื่องมือตามที่กำหนดไว้ในประกาศนั้น ดังนี้ ประกาศมิได้ระบุชื่อเครื่องมือชะนิดใดที่ห้ามโดยเด็ดขาดไว้ ฉะนั้นเมื่อเกิดการกระทำผิดตามประกาศนี้ขึ้น ศาลก็ย่อมใช้ดุลยพินิจไม่ริบเครื่องมือนั้นได้ตามความในมาตรา 69 แห่งพ.ร.บ.การประมง 2490

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหา และจำเลยรับสารภาพฟังได้ว่าจำเลยสมคบกันใช้อวนเป็นเครื่องมือทำการประมงจับปลาในลำคลองบางขวด ซึ่งเป็นน่านน้ำจืดและในฤดูปลามีไข่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เป็นการฝ่าฝืนต่อประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยอวน ๒ ผืน เรือเผ่นน้ำ ๑ ลำ พาย ๑ เล่ม ปลา ๑๐ ตัว อันเป็นเครื่องมือทำการประมง สิ่งที่ใช้และได้มาโดยการกระทำผิด เป็นของกลาง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามพ.ร.บ.การประมง ๒๔๙๐ มาตรา ๓๒,๖๕,๘๙,๗๐ ปรับจำเลยคนละ ๖๐ บาท ลดตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๕๙ กึ่งหนึ่ง คงปรับคนละ ๓๐ บาท ของกลางริบ
จำเลยที่ ๑ ผู้เดียวอุทธรณ์ ขอคืนเรือและอวนของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้คืนเรืออวนและพายแก่จำเลย นอกนั้นยืน
โจทก์ฎีกาขอให้ริบของกลาง
ศาลฎีกาเห็นว่า ประกาศกระทรวงเกษตรธิการลงวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๑ ข้อ ๒ มีความว่า “ในฤดูปลามีไข่ตามข้อ ๑ ห้ามมิให้บุคคลใดทำการประมงด้วยเครื่องมือใด ๆ ในที่จับสัตว์น้ำในน่าน้ำจืด ในท้องที่ทุกจังหวัดโดยเด็ดขาด เว้นแต่ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำและด้วยเครื่องมือทำการประมงตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๓ ข้อ ๔ และข้อ ๕ แห่งประกาศนี้ ดังนี้มิได้ระบุชื่อเครื่องมือชะนิดใด ๆ ที่ห้ามโดยเด็ดขาดไว้ ตามอำนาจที่ให้ไว้ในมาตรา ๓๒(๒) ฉะนั้นการริบอวนหรือไม่จึงต้องใช้มาตรา ๖๔ ซึ่งศาลใช้ดุลยพินิจได้ และที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลยพินิจว่าไม่ควรริบ ชอบด้วยรูปคดีแล้วคงพิพากษายืน

Share