คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19031/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ไม่ได้บรรยายข้อเท็จจริงมาในฎีกาว่าจำเลยที่ 1 กระทำการใดขัดต่อบทบัญญัติของ ป.วิ.พ. มาตรา 88 อันจะทำให้ศาลรับฟังการ์ดบัญชีเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ จึงเป็นฎีกาไม่ชัดแจ้งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
แม้จำเลยที่ 1 ไม่ส่งสำเนาการ์ดบัญชีให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 7 วัน อันเป็นการฝ่าฝืน ป.วิ.พ. มาตรา 90 แต่การ์ดบัญชีเป็นเอกสารสำคัญที่แสดงถึงการชำระค่าเช่าซื้อของจำเลยที่ 1 จึงเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี เมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี โดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ มาตรา 90 ศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 87 (2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันส่งมอบรถไถนาคันที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อยใช้การได้ดี หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทน 47,000 บาท พร้อมค่าขาดประโยชน์ 18,000 บาท
จำเลยทั้งสามให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความในชั้นอุทธรณ์ 1,500 บาท แทนจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ยื่นคำแก้อุทธรณ์จึงไม่กำหนดค่าทนายความให้
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่ามีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์เพียงข้อเดียวว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 3 รับฟังการ์ดบัญชี เป็นพยานหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า สำหรับข้อที่โจทก์ฎีกาว่า การรับฟังพยานหลักฐานของศาลขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 นั้น โจทก์ไม่ได้บรรยายข้อเท็จจริงมาในฎีกาว่า จำเลยที่ 1 กระทำการใดขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว อันจะทำให้ศาลรับฟังการ์ดบัญชี เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ฎีกาของโจทก์ข้อนี้เป็นฎีกาไม่ชัดแจ้ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่าการรับฟังพยานเอกสารของศาลขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 นั้น เห็นว่า แม้จำเลยที่ 1 ไม่ส่งสำเนาการ์ดบัญชี ให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 7 วัน อันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 แต่การ์ดบัญชี เป็นเอกสารสำคัญที่แสดงถึงการชำระค่าเช่าซื้อของจำเลยที่ 1 จึงเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี เมื่อศาลเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของมาตรา 90 ศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2) ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 เห็นว่า ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานการ์ดบัญชีมาโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share