แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หญิงฟันสามีทางข้างหลังด้วยพร้าใหญ่ถูกที่คอเป็นแผลลึก6 ซ.ม. แต่ฟันเพราะสามีคลอเคลียเมียน้อยต่อหน้าเกิดโทสะจึงคว้าพร้าฟันลงไปทันที เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่พยายามฆ่า
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อเวลากลางวัน วันที่ 11 มกราคม 2499 จำเลยมีเจตนาฆ่าบังอาจใช้มีดพร้าฟันนายอาด มาศโอสถผู้เป็นสามีของจำเลยเป็นบาดแผลสาหัสถึงทุพพลภาพพยาธิมีอาการประกอบด้วยทุกขเวทนากล้า ไม่สามารถจะประกอบการหาเลี้ยงชีพได้โดยปกติเกินกว่า 20 วันปรากฏตามรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้อง แต่ที่ไม่ถึงแก่ความตายเพราะมีผู้มาแย่งมีดจากจำเลยมิให้ฟันซ้ำ และนายแพทย์โรงพยาบาลกะบี่ทำการรักษาเสียได้ทันท่วงที เหตุเกิดตำบลเหนือคลองอำเภอเมืองกะบี่ จังหวัดกะบี่ ขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60, 256
จำเลยให้การรับว่าได้ทำร้ายนายอาดสามีจริง เพราะความหึงหวงเนื่องจากจำเลยกลับจากตลาดพบสามีนอนกอดอยู่กับนางฉิ้วหญิงอื่นอยู่บนเรือน เกิดบันดาลโทสะจึงฟันเอา โดยมิได้มีเจตนาฆ่า
ศาลจังหวัดกะบี่พิจารณาเห็นคดียังไม่พอจะชี้ได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยมีเจตนาฆ่า บาดแผลก็รักษาเพียงไม่กี่วันหายไม่ถึงสาหัสจำเลยมีความผิดเพียงฐานทำให้บาดเจ็บตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 วางโทษจำคุก 2 ปี คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่ทางพิจารณา ให้ลดฐานปรานีตามมาตรา 59 ลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก1 ปีเรื่องที่เกิดเพราะความหึงหวง จำเลยเป็นหญิงไม่เคยต้องโทษมาแต่ก่อนจึงให้รอการลงอาญาจำเลยไว้ภายใน 3 ปี ข้อหาอื่นนอกนั้นให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเข้าฟันทางเบื้องหลังด้วยพร้าใหญ่ยาว แผลแรกถูกในที่สำคัญที่ข้างคอเบื้องซ้ายลึกถึง 6 ซ.ม. เป็นแผลฉกรรจ์ แสดงว่ามีเจตนาฆ่า จึงพิพากษาแก้ ให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60 ให้จำคุก 10 ปี ลดฐานปรานีกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ซึ่งรอการลงโทษไม่ได้
จำเลยฎีกา
ในข้อที่จำเลยว่ากระทำไปเพราะความหึงหวงนั้น พยานโจทก์รับสม เฉพาะอย่างยิ่งถ้อยคำของนายอาดผู้เสียหาย ศาลฎีกาเห็นว่าเบิกความเป็นกลาง ๆ น่าเชื่อถือ โดยเบิกเป็นใจความว่า นายอาด(อายุ 54 ปี) ได้อยู่กินเป็นสามีจำเลย (อายุ 31 ปี) มาประมาณ 15ปีแล้วจนเมื่อก่อนหน้าเกิดเหตุนี้สัก 2 เดือนนายอาดได้นางฉิ้ว (อายุ 20 ปี) เป็นภริยาน้อยอีกคนหนึ่งเอามาอยู่เรือนเดียวรวมกันจำเลยห้ามปรามก็ไม่ฟัง จนตอนเที่ยงวันเกิดเหตุ นายอาด นางฉิ้วนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่บนเรือน หันหลังให้บันได จำเลยขึ้นบันไดมาเห็นพูดว่า ทำไมมานอนกันอย่างนี้ นายอาดตอบว่านอนเล่นเที่ยง ๆ จำเลยว่าเข้าไปนอนในเรือนดีกว่านอนตรงนี้ นายอาดว่านอนตรงนี้แหละร้อน ๆ นอนเล่น ๆนิ่งกันอยู่สัก 5 นาทีแล้วจำเลยก็ใช้พร้าฟันนายอาดมีบาดแผลตามที่กล่าวในฟ้อง นายอาดภายหลังกลับรู้สึกตัวถามจำเลยว่าทำไมฟัน จำเลยว่าไม่รู้จักที่นอน นายอาดเห็นว่าจำเลยไม่ได้แกล้งที่ทำไปเพราะความรัก
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อได้พิเคราะห์ถึงเพศหญิงที่สามีคลอเคลียเมียน้อยต่อหน้า ให้หลบเข้าไปนอนกันเสียในเรือนเพื่อพ้นหูพ้นตาก็ไม่ฟังจึงเกิดโทสะพลุ่งพล่านและคว้าพร้าใช้ฟันลงไปทันทีโดยมิได้ตระเตรียมการมาก่อน ที่นายอาดว่าจำเลยทำเพราะความรักก็คือรักนายอาด หากนายอาดตายจำเลยก็ไม่มีนายอาดจะรัก แม้จำเลยจะหนักมือฟันรุนแรงไปบ้างก็เพราะโทสะพลุ่งพล่านขึ้นมาในสภาพการณ์เช่นนั้น ทั้งแผลที่ 2 ก็มิได้ฟันรุนแรงเหมือนแผลที่หนึ่ง ประมวลเหตุการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวแล้วรวมกันพิเคราะห์ตามรูปคดี เห็นยังฟังไม่ถนัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่านายอาดให้ถึงตาย สมควรได้รับได้ลดโทษฐานทำร้ายร่างกายและรอการลงโทษตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดมาจึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์และเป็นระหว่างหัวต่อความผิดฐานทำร้ายร่างกายนี้ตามประมวลกฎหมายอาญาซึ่งบังคับใช้ภายหลังเวลาจำเลยกระทำผิดในมาตรา 295 ระบุโทษสามสถานมีระวางโทษเบากว่าตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254 ซึ่งใช้อยู่ในขณะจำเลยกระทำผิดโดยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 จึงให้เปลี่ยนเป็นคุณแก่จำเลย โดยวางด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 แทน นอกจากนี้คงให้บังคับคดีไปตามศาลชั้นต้นทุกประการ