แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขัดคำสั่งผู้รักษาราชการแทนนายอำเภอที่สั่งให้จำเลยออกไปจากที่ดินที่ทางราชการสงวนไว้สำหรับสาธารณประโยชน์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยมีความเชื่อมั่นโดยสุจริตใจว่า ที่ดินนั้นเป็นของจำเลยโดยการครอบครองมาช้านานเกินกว่า 40 ปี ซึ่งอำเภอจะสั่งให้จำเลยออกจากที่ดิน โดยพละการเช่นนี้ไม่ได้ จำเลยมีเหตุผลอันดีและมีข้อแก้ตัวอันสมควร ที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นได้ ย่อมเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
ตามรูปเรื่องเช่นว่านี้ สมควรที่จะดำเนินคดีว่ากล่าวถึงเรื่องสิทธิในที่ดินกันทางแพ่ง ยิ่งกว่าการฟ้องร้องทางอาญาฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
ย่อยาว
เรื่อง ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกต้นยางในที่ดินทางราชการสงวนไว้สำหรับสำสุสานสาธารณะประโยชน์ และจำเลยได้ยึดถือเอาที่ดินทั้งแปลงนั้นตลอดมา ต่อมา จำเลยได้ทราบคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของ นายพิศ ผู้รักษาราชการแทนนายอำเภอเทพา ให้จำเลยเลิกใช้ที่ดินแปลงนี้ภายใน ๑๐ วัน จำเลยขัดขืน ไม่กระทำตามคำสั่งดังกล่าว ขอให้ลงโทษตาม ก.ม. ลักษณะอาญา มาตรา ๓๓๔(๒) พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ พ.ศ.๒๔๕๗ มาตรา ๑๒๒
จำเลยต่อสู้ว่าที่ดินรายนี้เป็นของจำเลยได้รับมาจากบิดามมารดาปกครองเป็นเจ้าของตลอดมา ๔๒ ปี แล้ว ไม่ใช่ที่ดินสงวนดังฟ้องของโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย ๕๐ บาท ตาม ก.ม. ลักษณะอาญา มาตรา ๓๓๔(๒)
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยมีความเชื่อมั่นโดยสุจริตใจว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นของจำเลยครอบครองมาช้านานเกินกว่า ๔๐ ปี ซึ่งอำเภอจะสั่งให้จำเลยออกจากที่ดินโดยพละการเช่นนี้ ไม่ได้ ความเชื่อมั่นของจำเลยเช่นนี้มีเหตุผลสนับสนุนอยู่พร้อมมูล ศาลฎีกา เห็นว่าตามรูปเรื่องที่เป็นมา สมควรที่จะดำเนินคดีว่า กล่าวถึงสิทธิในที่ดิน กันทางแพ่งยิ่งกว่าการฟ้องร้องทางอาญา ฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานเช่นนี้ เพราะปรากฏโดยชัดแจ้งอยู่แล้วว่า จำเลยมีเหตุผลอันดีและมีข้อแก้ตัวอันสมควรที่จะไม่ปฏิบัติ- ตามคำสั่งนั้น จึงเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๘ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.