คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์กับ ช.เป็นสามีภรรยาไม่มีบุตรด้วยกัน จำเลยเป็นหลานของ ช.ช. ยกที่ดินแปลงพิพาทซึ่งเป็นสินบริคณห์ให้จำเลยครึ่งหนึ่งโดยเสน่หา ขณะที่ ช.ยกที่พิพาทให้จำเลยนั้น ทั้งโจทก์และช.ต่างมีอายุ 70 ปีเศษแล้ว เมื่อ ช.ป่วย. จำเลยได้ดูแลปรนนิบัติและรักษาพยาบาลช.ทั้งช่วยออกเงินค่ารักษาพยาบาลแต่ผู้เดียว.การที่ช. ยกที่ดินแปลงพิพาทให้จำเลยครึ่งหนึ่ง จึงเป็นการให้เพื่อตอบแทนความอุปการะช่วยเหลือ และเป็นการให้โดยเสน่หาตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีของกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอน
จำเลยให้การว่า จำเลยกับ ช.ร่วมกันซื้อที่ดินแปลงพิพาทโดยออกเงินคนละครึ่งแต่ในชั้นพิจารณาจำเลยกลับนำสืบว่า ช.ซื้อที่ดินแปลงพิพาทผู้เดียว ต่อมา ช.จึงขายที่ดินดังกล่าวให้จำเลยครึ่งหนึ่ง ดังนี้ เป็นการนำสืบข้อความนอกประเด็น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับนายแช จงปั้น เป็นสามีภรรยากัน แต่งงานเมื่อ พ.ศ. 2464 โดยโจทก์มีสินเดิมสร้อยข้อมือทองคำ 2 เส้น ต่างหู 1 คู่ และเงินสด 1 ชั่ง ในปี พ.ศ. 2483 โจทก์ขายสินเดิมดังกล่าวเอาเงินไปซื้อที่ดิน แล้วขายที่ดินนั้นได้เงิน 176,000 บาท ครั้น พ.ศ. 2512 โจทก์กับนายแชนำเงินดังกล่าวไปซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 13550 อำเภอบางเขน เนื้อที่ 8 ไร่เศษ ราคา 20,000 บาท ให้ลงชื่อนายแชเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียว ต่อมาวันที่ 23 พฤษภาคม 2515 นายแชถึงแก่กรรม โจทก์ไปขอรับมรดกจึงทราบว่านายแช ยกที่ดินโฉนดเลขที่ 13550 ให้แก่จำเลยตั้งแต่ 24 กรกฎาคม 2513 โจทก์ ให้จำเลยคืนที่ดิน จำเลยไม่ยอมคืน จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมการยกให้ ให้เจ้าพนักงานที่ดินแก้ทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียว

จำเลยให้การว่า โจทก์อยู่กินกับนายแชโดยไม่มีทรัพย์สินติดตัวมา เมื่อนายแชป่วยโจทก์มิได้ปฏิบัติสามี จำเลยเป็นผู้ช่วยเหลือรักษาพยาบาลเหมือนเป็นบิดาตนเอง นายแชได้ฝากผีฝากไข้กับจำเลย และยกทรัพย์สินให้จำเลย การให้ดังกล่าวเป็นการให้ตามสมควรในทางศีลธรรม ในวันโอนทะเบียนที่ดินแปลงพิพาท โจทก์ยินยอมต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินแปลงนี้ จำเลยกับนายแชร่วมกันซื้อมาโดยออกเงินคนละกึ่ง นายแชยกที่ดินกึ่งหนึ่งที่เป็นส่วนของนายแชให้จำเลย โจทก์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะโจทก์ไม่มีสินเดิมหรือสินส่วนตัว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมการยกให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 13550 เนื้อที่ 8 ไร่ 66 วา ระหว่างนายแชกับจำเลยกึ่งหนึ่งส่วนที่เพิกถอนนี้เป็นของนายแชต่อไป

โจทก์จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์จำเลยฎีกา

ในปัญหาที่ว่า การที่นายแชยกที่ดินโฉนดเลขที่ 13550 ครึ่งหนึ่งให้จำเลยโดยเสน่หานั้น เป็นการให้ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีหรือไม่ ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์กับนายแชไม่มีบุตรด้วยกันจำเลยเป็นหลานของนายแช ขณะที่นายแชยกที่พิพาทให้จำเลยนั้นทั้งโจทก์และนายแชต่างมีอายุ 70 ปีเศษแล้ว เมื่อนายแชป่วย จำเลยได้ดูแลปรนนิบัติและรักษาพยาบาลนายแช ทั้งช่วยออกเงินค่ารักษาพยาบาลแต่ผู้เดียว การที่นายแชยกที่ดินโฉนดเลขที่ 13550 ครึ่งหนึ่งให้จำเลยจึงเป็นการให้เพื่อตอบแทนความอุปการะช่วยเหลือดังนั้นย่อมฟังได้ว่าเป็นการให้โดยเสน่หาตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีตามกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอน

สำหรับปัญหาที่จำเลยฎีกาว่า ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 13550 อีกครึ่งหนึ่งเป็นของจำเลย โดยซื้อมาจากนายแชนั้น คดีนี้จำเลยให้การว่าจำเลยกับนายแชร่วมกันซื้อที่ดินโฉนดดังกล่าวโดยออกเงินคนละครึ่ง แต่ในชั้นพิจารณาจำเลยกลับนำสืบว่า เมื่อ พ.ศ. 2512 นายแชซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 13550 ต่อมา พ.ศ. 2513 นายแชขายที่ดินดังกล่าวครึ่งหนึ่งให้จำเลย แต่ยังมิได้จดทะเบียน ซึ่งเป็นการนำสืบข้อความนอกประเด็น รับฟังไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายืน

Share