คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1888/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

กรณีที่ผู้ประกันผิดสัญญาประกันต่อศาล เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยอย่างใดแล้ว คำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุด ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 119 ผู้ประกันไม่มีสิทธิฎีกาเกี่ยวกับคำสั่งบังคับตามสัญญาประกันได้อีก.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 4, 30,82 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343, 83, 91 และให้จำเลยคืนเงินหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหาย ผู้ประกันทั้งสองยื่นคำร้องขอประกันตัวจำเลยที่ 1 ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น วันนัดสืบพยานโจทก์ผู้ประกันทั้งสองไม่สามารถนำตัวจำเลยที่ 1 ส่งศาลตามกำหนดนัด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปรับผู้ประกันทั้งสองคนตามสัญญาประกัน หลังจากนั้นผู้ประกันทั้งสองนำตัวจำเลยที่ 1 มาส่งศาลและขอลดค่าปรับศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ลดค่าปรับลงเหลือ 2,000 บาท โดยให้ผู้ประกันทั้งสองชำระค่าปรับภายใน 7 วัน ผู้ประกันทั้งสองได้นำเงินชำระค่าปรับต่อศาลและขอรับหลักทรัพย์ประกันคืนจากศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ประกันทั้งสองมิได้ชำระค่าปรับภายในเวลาที่ศาลกำหนด จึงไม่ลดค่าปรับให้ ไม่อนุญาต ยกคำร้องผู้ประกันทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ผู้ประกันทั้งสองฎีกาศาลฎีกาพิพากษายกฎีกาของผู้ประกันทั้งสอง ผู้ประกันทั้งสองยื่นคำร้องขอผ่อนชำระค่าปรับต่อศาลเป็นรายเดือน เดือนละ 1,000 บาท
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต ยกคำร้อง
ผู้ประกันทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
ผู้ประกันทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า คดีนี้เป็นกรณีที่ผู้ประกันทั้งสองผิดสัญญาประกันต่อศาล เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำวินิจฉัยอย่างใดแล้ว คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ย่อมเป็นที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 4 ผู้ประกันทั้งสองไม่มีสิทธิฎีกาเกี่ยวกับคำสั่งบังคับตามสัญญาประกันได้อีก การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของผู้ประกันทั้งสองมาจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาของผู้ประกันทั้งสอง.

Share