คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1886/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำรับของคู่ความในคดีหนึ่งใช้ปิดปากผู้กล่าวในการพิจารณาคดีอีกคดีหนึ่งไม่ได้ เพราะคำรับไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่จะรับฟังได้ โดยเด็ดขาด เป็นแต่เพียงพยานหลักฐานอันหนึ่งซึ่งใช้ยันผู้กล่าวเท่านั้น ผู้กล่าวจึงนำสืบหักล้างได้ ในการพิจารณาคดีหลัง ศาลจะต้องวินิจฉัยว่าความจริงเป็นอย่างไร จะถือว่าคำรับของคู่ความในคดีก่อนผูกมัดผู้กล่าวโดยสืบหลักล้างไม่ได้เลยนั้น หาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านและที่ดินของโจทก์ ซึ่งโจทก์ได้กรรมสิทธิ์มาโดยคำพิพากษาคดีแดงที่ ๒๑๒/๒๔๙๗ ของศาลจังหวัดนครราชสีมา
จำเลยต่อสู้ว่าบ้านและที่พิพาทเป็นของจำเลยนายฮวด ชมชูศักดิ์ ปู่จำเลยที่ ๒ ยกให้เมื่อวันแต่งงาน
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า บ้านและที่พิพาทเป็นของโจทก์ จึงพิพากษาขับไล่จำเลยทั้งสอง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์คดีนี้เคยให้การในคดีแดงที่ ๒๑๒/๒๔๙๗ ว่าบ้านและที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ ๒ คดีนี้แม้โจทก์จะนำสืบฟังได้หรือไม่ก็ตาม ก็ไม่อาจลบล้างคำให้การในคดีก่อนได้ พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายฮวดและโจทก์เป็นปู่และย่าจำเลยที่ ๒ เมื่อนายฮวดถึงแก่กรรม โจทก์ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก นางผิวและนายทวีบุตรนายฮวกซึ่งเกิดจากภรรยาเก่าได้ฟ้องขอแบ่งมรดก โจทก์ให้การต่อสูว่าทรัพย์พิพาทเป็นของนายฮวด นายฮวดได้ทำหนังสือยกให้แก่จำเลยที่ ๒ ผลที่สุดคู่ความประนีประนอมยอมความกัน โจทก์ได้บ้านและที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ แบ่งกันระหว่างทายาท ศาลพิพากษาตามยอม ปรากฎตามคดีแดงที่ ๒๑๒/๒๔๙๗
คดีนี้มีปัญหาว่า ทรัพย์พิพาทเป็นของใคร คำให้การของโจทก์ตามคดีแดงที่ ๒๑๒/๒๔๙๗ ผูกมัดโจทก์เพียงใด
ศาลฎีกาเห็นว่า คำให้การต่อสู้คดีของโจทก์ในคดีก่อนนั้น ไม่ใช่คำรับรองต่อจำเลยคดีนี้และจำเลยไม่ได้เป็นคู่ความในคดีนั้น ที่โจทก์ให้การในคดีก่อนว่าทรัพย์พิพาทเป็นของนายฮวดและนายฮวดทำหนังสือยกให้แก่จำเลยที่ ๒ นั้น เป็นเพียงคำกล่าวของบุคคลหนึ่งซึ่งทำให้คนเสียประโยชน์ซึ่งเป็นพยานหลักฐานชนิดหนึ่งใช้ยันผู้กล่าวได้โดยสันนิษฐานว่า หากไม่เป็นความจริงแล้ว บุคคลจะไม่กล่าวให้ตนเสียประโยชน์ แต่การสันนิษฐานยังไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ยังได้เด็ดขาด ผู้กล่าวย่อมนำสืบหักล้างได้ว่าที่+กล่าวเช่นนั้นมีเจตนาอย่างไร โจทก์ก็ได้นำสืบหักล้างว่า แท้จริงหาได้มีการยกให้แต่จำเลยไม่ เป็นแต่โจทก์ต่อสู้คดีเพื่อป้องกันไม่ให้เอาทรัพย์รายนี้ไปแบ่งเป็นมรดกดังนั้น จึงต้องวินิจฉัยอีกชั้นหนึ่งว่า ความจริงเป็นอย่างไร จะถือว่าผูกพันผู้กล่าวโดยสืบหักล้างไม่ได้เลยหาได้ไม่เพราะไม่ต้องด้วยบทตัดสำนวนซึ่งกฎหมายบัญญัติให้ถือว่าเป็นดังคำกล่าวหรือการกระทำนั้น ข้อเท็จจริงคดีนี้ฟังได้ว่านายฮวดมิได้ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลย แม้โจทก์จะให้การสู้คดีคนอื่นอย่างนั้น ก็ไม่ทำให้มีนิติกรรมยกให้หรือการครอบครองอย่างเจ้าของเกิดขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้ย่อมมีขึ้นได้ตามกรรมที่ได้กระทำอย่างแท้จริงโจทก์จึงไม่เสียสิทธิในการเป็นเจ้าของทรัพย์อย่าง+ไปฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share