แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำฟ้องที่ถือว่าโจทก์ยกเหตุ 2 ประการขึ้นอ้างในการบอกเลิกการเช่า
โจทก์บอกเลิกการเช่าโดยอ้างเหตุว่าสัญญาหมดอายุ กับจำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่าโดยให้เช่าช่วง แม้ในเรื่องเช่าช่วง ข้อเท็จจริงจะฟังไม่ได้ แต่ฟังได้ว่าสัญญาหมดอายุแล้ว โจทก์ย่อมบอกเลิกสัญญาได้ และศาลก็ย่อมพิพากษาขับไล่จำเลยเพราะเหตุว่าสัญญาเช่าหมดอายุได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวเลขที่ 1227, 1229 ซึ่งจำเลยเช่าจากผู้แทนของโจทก์ โดยบรรยายเหตุขับไล่ว่า “สัญญาเช่าหมดอายุการเช่าแล้วโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าห้องดังกล่าวต่อไปทั้งจำเลยมิได้ใช้ห้องเช่าเป็นที่อยู่อาศัย และตัวจำเลยกับครอบครัวก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 1229/2 ถนนเจริญกรุงฯ ทั้งปรากฏอีกด้วยว่าจำเลยได้ประพฤติผิดสัญญาเช่า โดยนำห้องเช่าทั้งสองนี้ไปให้นายพกเฮง แซ่ผู่ เช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ โจทก์จึงได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่าไปยังจำเลย ดังสำเนาท้ายฟ้อง จำเลยรับทราบแล้วไม่ปฏิบัติตาม…”
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยให้เช่าช่วง โจทก์ไม่มีอำนาจบอกเลิกสัญญาเช่าเพราะเหตุนี้ได้แต่สัญญาเช่าครบกำหนดอายุแล้ว จำเลยอยู่ต่อมาโดยโจทก์ก็ไม่ทักท้วงและเมื่อโจทก์ไม่ปรารถนาให้จำเลยอยู่ โจทก์ก็ได้บอกเลิกกับจำเลยชั่วระยะกำหนดชำระค่าเช่าระยะหนึ่งแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจบอกเลิกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 570, 566 พิพากษาให้ขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อนี้เช่นเดียวกับในชั้นอุทธรณ์ว่าความมุ่งหมายของโจทก์ในการฟ้องขับไล่ก็เพราะถือว่าจำเลยเป็นผู้ผิดสัญญาเป็นสำคัญประการเดียว เมื่อฟังว่าจำเลยมิได้ให้เช่าช่วงก็ควรยกฟ้อง โดยมิต้องวินิจฉัยถึงประเด็นเรื่องสัญญาหมดอายุ
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อความตามฟ้องย่อมเห็นได้ว่าเหตุที่โจทก์ยกขึ้นอ้างในการบอกเลิกการเช่ากับจำเลยนั้นมี 2 ประการ คือ
1. สัญญาเช่าหมดอายุแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่ต่อไป
2. จำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่า โดยเอาห้องให้เช่าช่วง ฉะนั้นแม้ในเรื่องเช่าช่วง ข้อเท็จจริงจะฟังไม่ได้ แต่ฟังได้ว่าสัญญาเช่าหมดอายุแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ที่ศาลล่างพิพากษาขับไล่จำเลยเพราะสัญญาเช่าหมดอายุนั้น ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นคำพิพากษาฎีกาที่ 17/2502 รูปคดีไม่เหมือนคดีนี้
พิพากษายืน