คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 53 ห้ามมิให้นำสินค้าที่ผลิตหรือมีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์หรือซึ่งมาจากประเทศจีนคอมมิวนิสต์เข้ามาในราชอาณาจักร ผู้ใดนำสินค้าดังกล่าวนี้เข้ามาในราชอาณาจักร มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรฐานนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อจำเลยเป็นผู้นำเขากวางอ่อนของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร คงโต้เถียงกันว่าเขากวางอ่อนของกลางเป็นของที่มีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์หรือไม่ หน้าที่การพิสูจน์ตกอยู่แก่จำเลย ตามนัยแห่งมาตรา 100 พระราชบัญญัติศุลกากร
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2516)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจนำเขากวางอ่อนชนิดไม่ติดกะโหลกซึ่งเป็นสินค้าที่มีกำเนินในประเทศจีนคอมมิวนิสต์หนัก ๓๒.๑๐๐ กิโลกรัมราคา ๘๐,๒๕๐ บาท จะต้องเสียค่าอากร ๒๔,๐๗๕ บาท ซึ่งเป็นของต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ยังไม่เสียภาษีศุลกากรขาเข้า โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นสินค้าที่มีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์ที่ต้องห้ามมิให้นำเข้ามาในราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๔๘๒มาตรา ๑๖, ๑๗ พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๕๓ กับขอให้ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยเป็นผู้นำเข้ามาจำเลยจึงต้องมีหน้าที่พิสูจน์ว่าได้นำเข้ามาโดยชอบ แต่ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ดังจำเลยนำสืบพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙มาตรา ๒๗ ซึ่งแก้ไข (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ ปรับ ๔ เท่าราคาของซึ่งรวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วเป็นเงิน ๔๑๗,๓๐๐ บาท ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่ามิใช่เป็นเรื่องโต้เถียงกันเรื่องค่าภาษีอันจะต้องตกอยู่ในบังคับมาตรา ๑๐๐ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรฯ จึงเป็นหน้าที่โจทก์จะต้องสืบให้สมฟ้อง แต่พยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าเขากวางอ่อนของกลางมีกำเนิดในประเทศจีน คอมมิวนิสต์ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ไม่ริบของกลาง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๕๓ห้ามมิให้นำสินค้าที่ผลิตหรือมีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์หรือซึ่งมาจากประเทศจีนคอมมิวนิสต์เข้ามาในราชอาณาจักร ผู้ใดนำสินค้าดังกล่าวนี้เข้ามาในราชอาณาจักร มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรฐานนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้นำเขากวางอ่อนไม่ติดกะโหลกของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร คงโต้เถียงกันว่าเขากวางอ่อนของกลางเป็นของที่มีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์หรือเป็นของที่มีกำเนิดในประเทศรัสเซีย ซึ่งไม่ต้องห้ามมิให้นำเข้ามาในราชอาณาจักรดังจำเลยต่อสู้ปัญหาว่าหน้าที่การพิสูจน์ข้อโต้เถียงว่าเขากวางอ่อนของกลางในคดีนี้ เป็นของที่มีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์หรือมิใช่ นั้น ตกอยู่แก่ฝ่ายใด ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า หน้าที่การพิสูจน์ตกอยู่แก่จำเลย ตามนัยแห่งมาตรา ๑๐๐ ของพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช ๒๔๖๙ เพราะจำเลยเป็นผู้นำเขากวางอ่อนของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร จำเลยต้องมีหน้าที่พิสูจน์ว่าได้นำเข้ามาโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงจะพ้นความผิด เมื่อจำเลยนำสืบพิสูจน์ให้รับฟังไม่ได้ว่าเขากวางอ่อนของกลางมีกำเนิดในประเทศรัสเซียดังจำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้จำเลยจึงต้องมีความผิดตามฟ้อง
พิพากษากลับ บังคับคดีตามศาลชั้นต้น

Share