คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมาพบเห็นผู้ตายกำลังกอดจูบภริยาตน จึงบันดาลโทสะเข้าแทงผู้ตายขณะนั้นทันที กรณีเช่นนี้ถือว่าจำเลยบันดาลโทสะกระทำไปโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม ซึ่งศาลอาจลงโทษจำน้อยเลยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้(เทียบฎีกาที่ 435/2500)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดแทงนายทันถึงแก่ความตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การต่อสู้ว่า กระทำไปโดยบันดาลโทสะ และเพื่อป้องกันเกียรติยศชื่อเสียง ทั้งนี้เพราะผู้ตายล่วงเกินภริยาจำเลย และจะเข้าทำร้ายจำเลย
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยแทงผู้ตายเพราะความหึงหวงที่เป็นผู้ตายคุยกับภริยาตน ไม่ใช่เพราะผู้ตายกอดจูบภริยาจำเลยดังที่อ้าง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ให้จำคุก ๑๘ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามเพราะเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานและให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ตามมาตรา ๗๘ คงจำคุกไว้ ๑๒ ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าผู้ตายกอดจูบภริยาจำเลยขณะเกิดเหตุ เห็นว่าการที่จำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันเกียรติยศและชื่อเสียง หากแต่เกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาแก้ให้จำคุกไว้ ๓ ปี ตามมาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๙ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยมาพบเห็นผู้ตายและนางล้วนภรรยากำลังกอดจูบกันอยู่ จึงทำร้ายผู้ตายขณะนั้นทันที กรณีเช่นนี้ถือว่าจำเลยบันดาลโทสะกระทำไปโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ซึ่งศาลอาจลงโทษจำเลยน้อยกว่ากฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ ตามฎีกาที่ ๔๓๕/๒๕๐๐ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบกับมาตรา ๗๒ ส่วนโทษคงให้เป็นไปตามศาลอุทธรณ์

Share