คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1882/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคำให้การจำเลยต่อสู้ว่ากรรมการบริษัทโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแทนบริษัทโจทก์และสัญญาท้ายฟ้องไม่ผูกพันบริษัทโจทก์ แต่ไม่ได้ยกเหตุขึ้นกล่าวอ้างว่าไม่มีอำนาจฟ้องแทน และสัญญาไม่ผูกพันนั้นเพราะเหตุใด ดังนี้จำเลยไม่มีประเด็นจะนำสืบ
เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ส่งแร่ตามที่ตกลงขอผัดส่งกันในเดือนมีนาคมแล้ว อีก 4-5 เดือนต่อมาโจทก์มีหนังสือเตือนให้จำเลยส่งภายใน 7 วันและกล่าวว่าจำเลยจะต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์นับแต่เดือนมีนาคมแม้จำเลยจะขอผัดต่อไปอีกกี่ครั้งก็ตามเมื่อโจทก์ได้สงวนสิทธิที่จะคิดค่าเสียหายในราคาแร่ระหว่างเดือนมีนาคมตลอดมาทุกครั้งดังนี้ต้องถือว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่นั้นมา และค่าเสียหายจะต้องคำนวณตามราคาแร่ในเดือนนั้นเป็นหลัก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าบริษัทโจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายตามข้อบังคับ กรรมการหนึ่งคนมีอำนาจลงลายมือชื่อประทับตราแทนบริษัทและมีอำนาจฟ้องร้องบังคับคดีแทนบริษัทได้ จำเลยทำสัญญาขายแร่วุลแฟรมแก่โจทก์ 30 หาบราคาหาบละ 2,450 บาทกำหนดส่งภายใน50 วัน จำเลยรับล่วงหน้าไปสองคราวเป็นเงิน 39,400 บาท จำเลยผิดสัญญา โจทก์ต้องขาดผลกำไรไปรวมทั้งสิ้น 127,500 บาท ขอให้จำเลยคืนเงินล่วงหน้า 39,400 บาทและใช้ค่าเสียหาย 127,500 บาทกับดอกเบี้ย

จำเลยรับว่าทำสัญญาขายแร่และรับเงินล่วงหน้าไปจริง ส่วนข้ออื่น ๆ ปฏิเสธและตัดฟ้องว่านายตันซู่ซ้งไม่มีอำนาจฟ้องแทนบริษัทโจทก์ สัญญาท้ายฟ้องไม่ผูกพันบริษัทโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิถือเอาสัญญานั้นมาฟ้องจำเลย

ศาลแพ่งพิพากษาว่าบริษัทโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย โดยอาศัยมูลสัญญา จึงให้จำเลยคืนเงินล่วงหน้า 39,400 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องได้ตามสัญญาซื้อขายรายนี้และจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย พิพากษาแก้ว่านอกจากให้จำเลยคืนเงิน 39,400 บาทพร้อมดอกเบี้ยแล้ว ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์อีก 127,500 บาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าข้อที่จำเลยตัดฟ้องว่านายตันซู่ซ้งไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนบริษัทและสัญญาท้ายฟ้องไม่ผูกพันบริษัทนั้น ในคำให้การของจำเลยมิได้ยกเหตุขึ้นกล่าวอ้างว่านายตันซู่ซ้งไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนบริษัทเพราะเหตุใด และสัญญาท้ายฟ้องไม่ผูกพันบริษัทเพราะเหตุใดอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 177 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จำเลยจึงไม่มีประเด็นจะนำสืบที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องนั้นชอบแล้ว

ส่วนในปัญหาเรื่องค่าเสียหายนั้นแม้จะปรากฏว่าโจทก์ได้มีหนังสือเรียกร้องให้จำเลยส่งแร่ให้แก่โจทก์ภายใน 7 วันก็ดี แต่ก็ปรากฏในหนังสือฉบับนั้นเองว่าโจทก์ได้ถือว่าจำเลยจะต้องใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในการที่โจทก์ขาดผลกำไรเนื่องจากแร่วุลแฟรมในเดือนมีนาคม 2494 ราคาหาบละ 6,700 บาท โดยหนังสือฉบับนี้จะถือว่าได้มีการผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่จำเลยไม่ได้ อนึ่งแม้จะปรากฏว่าจำเลยได้มีหนังสือขอผัดส่งแร่ต่อมาอีกเมื่อปรากฏว่าโจทก์ยอมให้จำเลยผัดส่งแร่ต่อมานั้นโดยสงวนสิทธิที่จะคิดค่าเสียหายในราคาแร่ระหว่างเดือนมีนาคม 2494 ตลอดมาทุกครั้ง ฉะนั้นจึงฟังว่าจำเลยผิดสัญญามาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2494 เป็นหลัก

พิพากษายืน

Share