แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การระงับไปแห่งหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 321 วรรคหนึ่ง ด้วยการที่เจ้าหนี้ยอมรับการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้ จะถือว่าหนี้นั้นระงับก็ต่อเมื่อเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้แล้วเท่านั้น ตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องการรับเงินของลูกหนี้ที่ 2 มิได้ระบุว่าหนี้ที่ลูกหนี้ที่ 2 มีอยู่กับเจ้าหนี้ ได้ระงับลงทั้งหมดหรือบางส่วนในทันทีที่ทำหนังสือโอนสิทธิเรียกร้อง แต่มีข้อตกลงว่าหากมีความเสียหายเกิดขึ้นจากการรับโอนสิทธิเรียกร้อง ลูกหนี้ที่ 2 ยอมให้เจ้าหนี้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ เมื่อไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่าเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องเพื่อชำระหนี้ที่เจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีนี้ การที่เจ้าหนี้ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ที่ 2 จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการที่เจ้าหนี้ยอมรับการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ด้วยเงิน เมื่อลูกหนี้ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนอื่นที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ที่ 2 เด็ดขาด และไม่ต้องห้ามมิให้ได้รับชำระหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 94 เจ้าหนี้จึงมีสิทธิได้รับชำระหนี้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ทั้งสองเด็ดขาดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2544 เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามสัญญารับรองตั๋วเงิน กู้เงิน และอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นจำนวน 174,335,644.93 บาท ในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 96 (3) จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 รายละเอียดตามบัญชีท้ายคำขอรับชำระหนี้
ผู้คัดค้านนัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 104 แล้ว ลูกหนี้ที่ 2 โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ว่าภาระหนี้สินต่าง ๆ ที่ลูกหนี้ที่ 2 มีต่อเจ้าหนี้ได้มีการโอนสิทธิเรียกร้องที่ลูกหนี้ที่ 2 พึงได้รับจากบุคคลภายนอกให้แก่เจ้าหนี้ และเจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้บางส่วนจากบุคคลภายนอกแล้ว สิทธิที่เจ้าหนี้มีอยู่ต่อลูกหนี้ที่ 2 ระงับไปโดยมีการเปลี่ยนตัวลูกหนี้ เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้รายนี้
ผู้คัดค้านสอบสวนแล้วเห็นสมควรยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้เสียทั้งสิ้นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 107 (1)
ศาลล้มละลายกลางพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้เจ้าหนี้ได้รับชำระในมูลหนี้ทั้งสามรวมเป็นเงิน 174,335,644.93 บาท ในฐานะเจ้าหนี้มีประกัน โดยให้มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 206459 ตำบลช่องนนทรี อำเภอยานนาวา (พระโขนง) กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างของลูกหนี้ที่ 2 ก่อนเจ้าหนี้อื่นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 96 (3) ในวงเงิน 510,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 19.25 ต่อปี นับแต่วันจดทะเบียนจำนอง (วันที่ 16 มีนาคม 2541) (ที่ถูก วันที่ 26 มีนาคม 2541) เป็นต้นไป หากไม่พอชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้สำหรับส่วนที่เหลือจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 อย่างเจ้าหนี้สามัญตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 130 (7) โดยมีเงื่อนไขว่าหากเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องการรับเงินค่ารับเหมาก่อสร้างจากผู้ว่าจ้างหรือได้รับชำระหนี้จากนายอาจณรงค์ นางสาวจิตติมาศ และนายธีระเชษฐ์ ผู้ค้ำประกันหนี้ดังกล่าวเป็นจำนวนเท่าใด ให้สิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ในคดีนี้ลดลงเพียงนั้น
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีล้มละลายพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ที่ผู้คัดค้านฎีกาว่า เมื่อลูกหนี้ที่ 2 ได้โอนสิทธิเรียกร้องในการรับเงินจากลูกหนี้แห่งสิทธิให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหมดเพื่อชำระหนี้ที่เกิดขึ้นแล้วระหว่างลูกหนี้ที่ 2 กับเจ้าหนี้ ในขณะที่ทำหนังสือโอนสิทธิเรียกร้องหรือที่จะมีขึ้นภายหลังที่ทำการโอนสิทธิเรียกร้องแล้ว ดังนั้น หนี้ต่าง ๆ ที่ลูกหนี้ที่ 2 มีอยู่กับเจ้าหนี้จึงระงับสิ้นไป เจ้าหนี้จึงยังคงมีสิทธิได้รับชำระหนี้เฉพาะส่วนตามสัญญาจำนองที่ลูกหนี้ที่ 2 ทำไว้กับเจ้าหนี้เพื่อเป็นประกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการโอนสิทธิเรียกร้องเท่านั้น นั้น เห็นว่า การระงับไปแห่งหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 วรรคหนึ่ง ด้วยการที่เจ้าหนี้ยอมรับการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้ จะถือว่าหนี้นั้นระงับก็ต่อเมื่อเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้แล้วเท่านั้น ตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องการรับเงินของลูกหนี้ที่มิได้ระบุว่าหนี้ที่ลูกหนี้ที่ 2 มีอยู่กับเจ้าหนี้ ได้ระงับลงทั้งหมดหรือบางส่วนในทันทีที่ทำหนังสือโอนสิทธิเรียกร้อง แต่มีข้อตกลงว่า หากมีความเสียหายเกิดขึ้นจากการรับโอนสิทธิเรียกร้อง ลูกหนี้ที่ 2 ยอมให้เจ้าหนี้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ จากการตรวจสำนวนคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่าเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวเพื่อชำระหนี้ที่เจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีนี้ การที่เจ้าหนี้ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ที่ 2 จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการที่เจ้าหนี้ยอมรับการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ด้วยเงิน เมื่อเจ้าหนี้ยังมิได้รับชำระหนี้ ทั้งมูลหนี้ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ที่ 2 เด็ดขาด และมิได้เป็นมูลหนี้ที่ต้องห้ามมิให้ได้รับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 94 เจ้าหนี้จึงมีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งของศาลล้มละลายกลางนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ