แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เล่นไพ่นกกระจอกและไพ่ซีเซ็กพะนันเอาเงินกัน วิธีพิจารณาอาญา ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยคนใดผิดแต่โจทก์หรือจำเลยผู้นั้นไม่ได้ฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาไม่แก้โทษให้หนักกว่าที่ศาลล่างวางไว้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลเดิมตัดสินยกฟ้องโจทก์โดยสงสัยคำพะยานว่าจำเลยจะไม่ได้เล่นการพะนันกันดังโจทก์หา
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับว่า จำเลยทุกคนนอกจากนายเค่งง้ำเป็นผู้เล่นไพ่นกกระจอกและไพ่ซีเซ็กพะนันเอาเงินกันที่สโมสรไป๊ลักเสีย ซึ่งนางเค่งง้ำเป็นผู้จัดการและเวลานั้นนายเค่งง้ำก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่เมื่อวางโทษกลับให้ปรับนายล่ำยิ้ม ( ผู้เล่น ) ฐานเป็นเจ้าสำนักตามพ.ร.บ.อากรการพะนันศก ๑๑๑ ม.๖ เป็นเงิน ๖๐ บาท จำเลยนอกนั้นให้ปรับตาม พ.ร.บ.อากรการพะนันศก ๑๒๐ ม.๑๐ คนละ ๔๐ บาท ถ้าไม่มีใช้ให้จำแทนนายล่ำยิ้ม ๓๖ วัน จำเลยอื่นคนละ ๒๔ วัน กับให้จำเลยช่วยกันเสียค่าสินบนนำจับอีกสำนวนละ ๒๕ บาท ถ้าไม่มีเสียจำแทนคนละ ๔ วัน
นายชอเตี๋ยน นายกุ่ย นายล่ำยิ้มฎีกาข้อเท็จจริงแลว่าที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษในฎีกาว่า อาจจะพิมพ์ขื่อจำเลยผิดกลับกันไปก็ได้
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยเล่นไพ่พะนันกันจริง แต่ที่ศาลอุทธรณ์ให้ปรับนายล่ำยิ้มฐานเป็นเจ้าสำนักนั้นยังผิดอยู่ เพราะในฟ้องโจทก์และคำพะยานก็ว่านายล่ำยิ้มเป็นแต่ผู้เล่นการพะนัน จึงตัดสินแก้ให้ปรับนายล่ำยิ้มฐานเป็นผู้เล่นตาม พ.ร.บ.อากรการพะนัน ร.ศ.๑๒๐ ม.๑๐ เป็นเงิน ๔๐ บาท ถ้าไม่มีเงินเสียค่าปรับแล้วให้จำไถ่โทษ ๒๔ วัน คดีส่วนตัวนายเค่งง้ำยุติเพียงชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจึงไม่แก้ไขความอื่น นอกจากนี้คงยืนตามศาลอุทธรณ์