แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลหมายเรียกเอกสารไปยังจำเลยให้ส่งมาศาลตามคำขอของโจทก์ (ราษฎร) เมื่อจำเลยไม่ส่งเอกสารมาให้โดยอ้างว่าเอกสารนั้นไม่มี ทั้งที่เอกสารนั้นมีอยู่ก็เป็นความผิดที่กระทำต่อศาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรม โจทก์หาใช่ผู้เสียหายโดยตรงในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170 ไม่ และการกระทำของจำเลยไม่เข้าลักษณะเป็นความผิด ตามมาตรา 187,188
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นรองผู้จัดการและทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด สาขาจังหวัดตรัง โจทก์ได้ขอหมายเรียกเอกสารจากศาลจังหวัดตรังในคดีอาญา ให้ธนาคารดังกล่าวส่งเช็ค 1 ฉบับของธนาคาร จำเลยได้รับหมายแล้ว จำเลยตอบศาลว่าเอกสารที่โจทก์อ้างไม่มีในธนาคาร ทั้งธนาคารไม่ได้รับไว้ ซึ่งเป็นความเท็จขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170, 187, 188
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่โจทก์ฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่จำเลยรายงานไปยังศาลปกปิดความจริงว่า เอกสารที่โจทก์ขอหมายเรียกไปไม่มีที่ธนาคาร ซึ่งความจริงเอกสารนั้นมีอยู่ที่ธนาคารเป็นเหตุให้โจทก์แพ้คดี เนื่องจากไม่ได้เช็คนั้นมาประกอบการพิจารณาคดีตามที่โจทก์อ้าง โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้องก็ปรากฏชัดอยู่ว่าศาลเรียกเอกสารไปยังจำเลยให้ส่งมายังศาล เมื่อจำเลยไม่ส่งเอกสารมาให้ศาลโดยอ้างว่าเอกสารนั้นไม่มีที่ธนาคาร ทั้งที่เอกสารนั้นมีอยู่ หากจะเป็นความผิดก็เป็นความผิดที่กระทำต่อศาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ส่วนการที่โจทก์ไม่ได้เอกสารมาประกอบการพิจารณาคดีตามที่โจทก์อ้าง เป็นผลต่อเนื่องจากการที่จำเลยไม่ส่งเอกสารต่อศาลโจทก์หาใช่ผู้เสียหายโดยตรงจากการกระทำของจำเลยไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามบทมาตรา (170) นี้ได้
ส่วนข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 187 เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัด หรือจะถูกยึดหรืออายัด เอกสารที่โจทก์อ้างไม่ใช่ทรัพย์ที่อยู่ในบังคับดังกล่าว และมาตรา 188 เป็นการกระทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารของผู้อื่นแต่การที่จำเลยไม่ส่งเอกสารต่อศาล ไม่เข้าลักษณะอันจะเป็นความผิดตามบทมาตรานี้
พิพากษายืน