คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1877/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลให้โอกาสผู้ร้องคัดค้านเลื่อนการไต่สวนมาหลายนัดแล้วและรายงานกระบวนพิจารณานัดสุดท้ายระบุว่า นัดหน้าจะไม่ขอเลื่อนคดีอีก นัดหน้าหากผู้ร้องคัดค้านไม่มาหรือขอเลื่อนคดีอีกก็ยอมให้ถือว่าผู้ร้องคัดค้านไม่ติดใจสืบพยานต่อไป เมื่อผู้ร้องคัดค้านไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้งดการไต่สวนและถือว่าผู้ร้องคัดค้านไม่มีพยานมาสืบได้.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากผู้ร้องคัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่2076 ให้แก่นายกฤษณ์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับและประเพณีในการขายทอดตลาด ผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้เข้าประมูลสู้ราคาด้วยผู้หนึ่ง ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าว และทำการขายทอดตลาดใหม่
เจ้าพนักงานบังคับคดี โจทก์และผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำแถลงว่าผู้ร้องคัดค้านไม่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด และเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดโดยชอบแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
วันนัดไต่สวนพยานผู้ร้องคัดค้าน ศาลชั้นต้นออกนั่งพิจารณาปรากฏว่าผู้ร้องคัดค้านไม่มาศาลตามนัด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้ร้องคัดค้านทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล จึงให้งดการไต่สวนและถือว่าผู้ร้องคัดค้านไม่มีพยานมาสืบให้ฟังได้ตามคำร้อง ไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาด ให้ยกคำร้องจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ผู้ร้องคัดค้านยื่นคำร้องในวันเดียวกันว่า มิได้จงใจขาดนัดพิจารณา เหตุที่ไม่มาศาลตามกำหนดนัดเนื่องจากรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางมาศาลเกิดขัดข้องระหว่างทาง ต้องหยุดซ่อมเป็นเวลานาน ขอให้เพิกถอนคำสั่งเดิมแล้วทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องคัดค้านใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของผู้ร้องคัดค้านไม่ได้ กล่าวคัดค้านคำสั่งของศาลว่าไม่ถูกต้องและมีเหตุอันควรอย่างไรที่จะให้มีการพิจารณาใหม่ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคท้าย ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องคัดค้านอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
ผู้ร้องคัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาว่าผู้ร้องคัดค้านมีสิทธิที่จะขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ไต่สวนคำร้องของผู้ร้องคัดค้านใหม่ตามคำร้องลงวันที่ 7 กันยายน 2533 ได้หรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ปรากฏว่าศาลชั้นต้นให้โอกาสผู้ร้องคัดค้านเลื่อนการไต่สวนมาหลายนัดจนถึงนัดวันที่ 7 กันยายน 2533 ก็ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่าศาลชั้นต้นออกนั่งพิจารณาคดีเวลา 11 นาฬิกา เป็นการให้โอกาสผู้ร้องคัดค้านเดินทางมาศาลเพียงพอแล้ว เมื่อผู้ร้องคัดค้านไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้งดการไต่สวน ถือว่าผู้ร้องคัดค้านไม่มีพยานมาสืบซึ่งสอดคล้องกับที่ผู้ร้องคัดค้านแถลงไว้ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 21 พฤษภาคม2533 ว่านัดหน้าจะไม่ขอเลื่อนคดีอีก นัดหน้าหากผู้ร้องคัดค้านไม่มาหรือขอเลื่อนคดีอีกก็ยอมให้ถือว่าผู้ร้องคัดค้านไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ผู้ร้องคัดค้านจึงไม่อาจใช้สิทธิขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ไต่สวนคำร้องของผู้ร้องคัดค้านใหม่อันมีลักษณะประวิงคดีใด ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นโดยให้ยกคำร้องของผู้ร้องคัดค้านนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาผู้ร้องคัดค้านฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share