คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การที่คู่สัญญาทำสัญญากู้ยืมเงินขึ้นใหม่แทนหนังสือสัญญากู้ยืมเงินฉบับเก่าแสดงถึงเจตนาของคู่สัญญาว่าได้ตกลงระงับหนี้ตามสัญญาเก่าแล้วให้ใช้สัญญาใหม่แทน สัญญาเก่าเมื่อระงับไปแล้วก็ไม่มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงในการทำสัญญาใหม่นั่นเอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องตามสัญญาฉบับเก่าอีก กรณีนี้เป็นเรื่องตกลงระงับหนี้ไม่ใช่การชำระหนี้ จึงไม่จำเป็นต้องมีใบเสร็จหรือเวนคืนเอกสารตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 326

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ 2 ฉบับเป็นเงิน 30,160 บาท แล้วไม่ชำระ ขอให้จำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ยจำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ให้จำเลยทั้งสองทำสัญญากู้ฉบับใหม่แล้วโดยรวมยอดหนี้ที่ค้างชำระ และจำเลยทั้งสองได้ชำระหนี้บางส่วนแล้วแต่โจทก์กลับนำสัญญากู้ฉบับเก่ามาฟ้อง ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยทั้งสองทำหนังสือสัญญากู้ยืมเงินขึ้นอีก 2 ฉบับแทนสัญญากู้ยืมเงิน 2 ฉบับท้ายฟ้อง โดยรวมดอกเบี้ยที่ค้างชำระเข้าไปด้วย กรณีเช่นนี้มิใช่เป็นกรณีเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ จึงมิใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ จำเลยทั้งสองยังต้องรับผิดชำระเงินตามหนังสือสัญญากู้ยืมที่โจทก์นำมาฟ้อง พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 41,470 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์จำเลยทั้งสองทำสัญญากู้ยืมเงินกันใหม่แล้ว หนี้ตามสัญญาฉบับเก่าระงับไป จำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดตามสัญญาที่โจทก์นำมาฟ้อง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่าหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน2 ฉบับที่ทำขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2524 มิใช่ทำแทนหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน2 ฉบับที่โจทก์นำมาฟ้องแต่เป็นการกู้ยืมคนละรายกันนั้น ปัญหาข้อนี้เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่ามีการทำหนังสือสัญญากู้ยืมเงินเมื่อพ.ศ. 2524 แทนหนังสือสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมาย จ.1, จ.2 แล้วแต่หนี้ยังไม่ระงับจึงให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ตามฟ้องนั้น เมื่อจำเลยทั้งสองอุทธรณ์ โจทก์มิได้ยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอ้างเป็นประเด็นไว้ในคำแก้อุทธรณ์เพื่อให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย กลับขอถือเอาคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นส่วนหนึ่งของคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยด้วย ปัญหานี้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ และเป็นอันยุติไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยจะยกขึ้นอ้างหรือโต้แย้งในชั้นฎีกาอีกไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ ส่วนที่โจทก์ฎีกาด้วยว่าแม้จะฟังได้ว่ามีการทำหนังสือสัญญาขึ้นใหม่แทนหนังสือสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมาย จ.1, จ.2 หนี้ตามเอกสารหมาย จ.1, จ.2ก็ยังไม่ระงับไปเพราะยังไม่มีการชำระหนี้ นั้น เห็นว่า การที่คู่สัญญาทำหนังสือสัญญาขึ้นใหม่แสดงถึงเจตนาของคู่สัญญาว่าได้ตกลงระงับหนี้ตามเอกสารหมาย จ.1, จ.2 แล้วให้ใช้สัญญากู้ใหม่แทน สัญญาเก่าเมื่อระงับไปแล้วก็ไม่มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงในการทำสัญญาใหม่นั้นเอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องตามสัญญาเก่าอีกแล้ว ส่วนจำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดตามสัญญากู้ฉบับใหม่ประการใดหรือไม่ ไม่เป็นประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้ กรณีนี้เป็นเรื่องตกลงระงับหนี้ ไม่ใช่การชำระหนี้จึงไม่จำเป็นต้องมีใบเสร็จ หรือเวนคืนเอกสารตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 326 ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share