แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับพวกร่วมกันข่มขืนใจโจทก์ร่วมให้ยอมให้หรือยอมจะให้เงินจำนวน 350,000 บาท แก่จำเลยกับพวก โดยขู่เข็ญว่าถ้าไม่ให้จะนำวีดีโอเทปการร่วมประเวณีระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยไปฉายให้ประชาชนดู จะฟ้องต่อเจ้าคณะจังหวัดกรมการศาสนา และจะลงหนังสือพิมพ์แต่โจทก์ร่วมไม่ได้มอบเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่จำเลยกับพวกการกระทำของจำเลยกับพวกเข้าองค์ประกอบของความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 ประกอบมาตรา 80
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามกับพวกร่วมกันข่มขืนใจพระครูพิทักษ์ธัญญเขตผู้เสียหายให้จ่ายเงินจำนวน 350,000 บาทแก่จำเลยกับพวกโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชื่อเสียงของผู้เสียหาย และเปิดเผยความลับด้วยการนำวีดีโอเทปที่มีการร่วมประเวณีระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยที่ 1 ฉายให้บุคคลอื่นดูแต่การกระทำไม่บรรลุผล เพราะผู้เสียหายไม่ยอมจ่ายเงินให้ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 337, 338, 33ริบวีดีโอเทปของกลาง
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338, 83 ประกอบด้วยมาตรา 80 จำคุกคนละ 5 ปี ริบของกลาง ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 และที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่า เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2531 เวลากลางวันจำเลยที่ 1 ที่ 3 กับพวกได้ร่วมกันข่มขืนใจโจทก์ร่วมให้ยอมให้หรือยอมจะให้เงินจำนวน 350,000 บาท แก่จำเลยที่ 1 ที่ 3 กับพวกโดยขู่เข็ญว่าถ้าไม่ให้จะนำวีดีโอเทปการร่วมประเวณีระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 1 ไปฉายให้ประชาชนดู จะฟ้องต่อเจ้าคณะจังหวัดกรมการศาสนา และจะลงหนังสือพิมพ์ แต่โจทก์ร่วมไม่ได้มอบเงินให้แก่จำเลยที่ 1 ที่ 3 กับพวก ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 3 กับพวกเข้าองค์ประกอบของความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 ประกอบมาตรา 80 ครบถ้วนแล้ว
พิพากษายืน