คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1856/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยด่าโจทก์ต่อหน้าธารกำนัลว่า”อีดอกทองมึงไปประชุมที่โรงแรมก็ไปนอนให้เขาเย็ดๆ””มึงมีชู้จนหีเน่าต้องไปตัดหี”เป็นถ้อยคำหมิ่นประมาทและเหยียดหยามโจทก์สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่โจทก์ซึ่งดำรงตำแหน่งครูใหญ่และผู้จัดการโรงเรียนจึงเป็นเรื่องร้ายแรงเกินควรแก่สภาพและฐานะของโจทก์อันจะพึงรับได้กรณีมีเหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1516(2)(ค)(3)ที่โจทก์จะฟ้องหย่าได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยเป็นสามีภริยากัน จำเลยไปติดพันและให้อุปการะเลี้ยงดูหญิงอื่น จำเลยทะเลาะด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายหมิ่นประมาทและเหยียดหยามโจทก์และบุพการีโจทก์อย่างร้ายแรง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเดือดร้อนเกินสมควร ขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนหย่ากับโจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้ประพฤตินอกใจหรืออุปการะเลี้ยงดูหญิงอื่น จำเลยไม่ได้หมิ่นประมาทด่าว่าโจทก์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากัน
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่า โจทก์มีเหตุหย่ากับจำเลยตามฟ้องหรือไม่ จำเลยด่าโจทก์ว่า”อีดอกทอง มึงไปประชุมที่โรงแรมก็ไปนอนให้เขาเย็ด ฯลฯ””ฯลฯ มึงมีชู้จนหีเน่า ต้องไปตัดหี ฯลฯ” ถ้อยคำทั้งหมดที่จำเลยด่าโจทก์นั้น จำเลยด่าต่อหน้าธารกำนัล ซึ่งจำเลยมิได้ปฏิเสธความข้อนี้เห็นว่า การที่จำเลยด่าว่าโจทก์ซึ่งดำรงตำแหน่งครูใหญ่และผู้จัดการโรงเรียนด้วยถ้อยคำดังกล่าวอันเป็นการหมิ่นประมาทและเหยียดหยามโจทก์ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่โจทก์ จึงเป็นเรื่องร้ายแรงเกินควรแก่สภาพและฐานะของโจทก์อันจะพึงรับได้กรณีมีเหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(2)(ค)(3)ที่โจทก์จะฟ้องหย่าจำเลยได้
พิพากษายืน

Share