คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1856/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอุทธรณ์ ศาลสั่งรับอุทธรณ์เรื่องอายุความข้อเดียวในการวินิจฉัยเรื่องอายุความนี้ ศาลอุทธรณ์จำต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเพื่อนำมาปรับกับบทกฎหมายว่าคดีขาดอายุความหรือไม่เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตศาลอุทธรณ์ย่อมยกข้อเท็จจริงนี้ขึ้นเป็นเหตุยกฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 185, 215 เพราะเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตามมาตรา 195 วรรคสองโจทก์จะฎีกาโต้แย้งว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาหรือสั่งเกินคำขอหรือมิได้กล่าวในฟ้อง (อุทธรณ์) ย่อมฟังไม่ขึ้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ตกลงขายรถแทรกเตอร์ ๑ คัน โดยมีเงื่อนไขให้แก่นายสวัสดิ์เป็นเงิน ๕๒๐,๐๐๐ บาท โดยผ่อนชำระเงินเป็นงวด ๆ และกรรมสิทธิ์ในรถคันดังกล่าวจะยังไม่ตกแก่ผู้ซื้อจนกว่าจะได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ว โจทก์ได้มอบรถให้นายสวัสดิ์เป็นผู้ครอบครองแล้วตั้งแต่วันที่ตกลงซื้อขายกันต่อมานายสวัสดิ์ยังค้างส่งเงินค่ารถอีก ๗ งวดได้โอนสิทธิการเช่าซื้อแก่จำเลย จำเลยได้เข้าครอบครองรถคันดังกล่าวตลอดมาแต่จำเลยไม่เคยชำระราคาค่ารถตามสัญญาให้โจทก์เลย ต่อมาจำเลยได้บังอาจเบียดบังยักยอกรถแทรกเตอร์ดังกล่าวไปโอนขายให้แก่น้องชายของจำเลยโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒ ลงโทษจำคุก ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าให้รับเป็นอุทธรณ์ในปัญหาเรื่องอายุความข้อเดียว อุทธรณ์นอกนั้นจำเลยไม่ได้ยกขึ้นมาต่อสู้ในศาลชั้นต้นจึงไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต อันจะเป็นความผิดทางอาญา ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในเรื่องอายุความ พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาว่า ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์ในปัญหาเรื่องอายุความข้อเดียวอันเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นที่ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่ อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเพราะจำเลยยังอุทธรณ์อยู่และการวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยเรื่องอายุความตามที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์นั้น ศาลอุทธรณ์จำต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเพื่อนำมาปรับกับบทกฎหมายว่าคดีขาดอายุความหรือไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว เห็นว่าตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดทางอาญา ศาลอุทธรณ์ย่อมยกขึ้นอ้างเป็นเหตุยกฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘๕, ๒๑๕ เพราะเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตามมาตรา ๑๙๕ วรรค ๒ ที่โจทก์อ้างว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาบัญญัติห้ามมิให้ศาลพิพากษาหรือสั่งเกินคำขอหรือมิได้กล่าวในฟ้องนั้น หาตรงกับรูปคดีไม่ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share