แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การรับจ้างซักรีดเสื้อผ้าหรือรับจ้างตัดผม นั้นได้ชื่อว่าเป็นการประกอบธุระกิจการค้าแล้ว แม้จะมีการอยู่อาศัยด้วย ก็ไม่ถือว่าเป็นเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
โจทก์อ้างพยานเอกสารจากจำเลยๆ รับหมายแล้วไม่ส่งและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ดังนี้ ศาลต้องฟังว่า จำเลยยอมรับตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 123,124, แล้ว
การบอกกล่าวเลิกการเช่า ที่ส่งไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับผู้ส่ง หมายเหตุว่าส่งแล้ว ผู้รับไม่ยอมรับ คืนดังนี้ต้องถือว่าผู้เช่าได้ทราบคำบอกกล่าวนั้นแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ ทั้ง ๓ สำนวน ฯลฯ
จำเลยทั้ง ๓ สำนวน ให้การว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ขับไล่จำเลย ออกจากห้องพิพาท ฯลฯ
จำเลยทั้งสามฎีกาล
ศาลฎีกาเห็นว่า การรับจ้างซักรีดเสื้อผ้าหรือรับจ้างตัดผมนั้น ถือว่าเป็นการประกอบธุระกิจการค้าจำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
เรื่องโจทก์อ้างทะเบียนพาณิชย์กับใบเสร็จรับเงินภาษีโรงค้าจากจำเลยๆ รับหมายแล้ว ไม่ส่งและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง จึงต้องฟังว่า จำเลยยอมรับตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๑๒๓,๑๒๔, ดังความเห็นของศาลชั้นต้นชอบแล้ว
ส่วนเรื่องคำบอกกล่าวนั้น ปรากฎว่าโจทก์ได้ส่งคำบอกกล่าวไปยังจำเลยโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ผู้ส่ง หมายเหตุส่งแล้ว ผู้รับไม่ยอมรับ คืน ดังนี้ต้องถือว่าจำเลยได้ทราบคำบอกกล่าวนั้นแล้ว
จึงพิพากษายืน