คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1849/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นกรมในรัฐบาลและเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการสื่อสาร การไปรษณีย์โทรเลข วิทยุ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน มิได้มีวัตถุประสงค์ในการประกอบการค้า ส่วนร้านค้าขององค์การสงเคราะห์ ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข หรือ อ.ส.ค. ตั้งขึ้นโดยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นผู้แต่งตั้งประธานกรรมการขึ้นเป็นผู้ดำเนินงานพร้อมด้วยคณะกรรมการ และจัดตั้งร้านค้า อ.ส.ค. ขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือข้าราชการในกรมไปรษณีย์โทรเลข และประธานกรรมการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนในตำแหน่งผู้จัดการ แต่มิได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน และเป็นกิจการต่างหาก มิได้อยู่ในวัตถุประสงค์และหน้าที่ของกรมไปรษณีย์โทรเลข เมื่อร้านค้า อ.ส.ค.มิใช่ราชการของกรมไปรษณีย์โทรเลข กรมไปรษณีย์โทรเลขจึงไม่ต้องร่วมรับผิดในหนี้สินของร้านค้า อ.ส.ค.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ร้านค้า อ.ส.ค.อยู่ในสังกัดของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๑ ในตำแหน่งผู้จัดการร้านค้า อ.ส.ค. ได้ซื้อเชื่อสินค้าจากโจทก์แล้วไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่าไม่ต้องรับผิด
จำเลยที่ ๒ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๒ ชำระเงิน ๔๗,๐๒๒.๒๒ บาทกับดอกเบี้ยร้อยละ ๑๒ ต่อปี ในต้นเงิน ๔๓,๙๔๖ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ยกฟ้องจำเลยที่ ๑
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำเลยที่ ๑ ร่วมกับจำเลยที่ ๒ ชำระเงินตามจำนวนที่ศาลชั้นต้นพิพากษา
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
มีปัญหาว่าจำเลยที่ ๑ จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๒ หรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรมไปรษณีย์โทรเลขจำเลยที่ ๑ เป็นกรมในรัฐบาลและเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการสื่อสารการไปรษณีย์โทรเลข วิทยุ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน มิได้มีวัตถุประสงค์ในการประกอบการค้า ส่วนร้านค้าขององค์การสงเคราะห์ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข หรือ อ.ส.ค. ถึงแม้จะตั้งขึ้นโดยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี อธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ผู้แทนของจำเลยที่ ๑ เป็นผู้แต่งตั้งประธานกรรมการขึ้นเป็นผู้ดำเนินงานพร้อมด้วยคณะกรรมการและจัดตั้งร้านค้า อ.ส.ค. ขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือข้าราชการในกรมไปรษณีย์โทรเลขและประธานกรรมการแต่งตั้งจำเลยที่ ๒ เป็นผู้รักษาการแทนในตำแหน่งผู้จัดการก็ตาม แต่ร้านค้าอ.ส.ค. มิได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินเป็นกิจการต่างหากมิได้อยู่ในวัตถุประสงค์และหน้าที่ของกรมไปรษณีย์โทรเลขจำเลยที่ ๑ โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมานำสืบให้เห็นว่า โจทก์ได้ทำการค้าขายติดต่อกับจำเลยที่ ๑ เมื่อร้านค้า อ.ส.ค. มิใช่ราชการของจำเลยที่ ๑ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องให้จำเลยที่ ๑ ร่วมรับผิดในหนี้สินนี้ด้วย
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share