คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1847/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยในคดีล้มละลายเป็นเงินได้ของกองทรัพย์สินจำเลยซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 40 (8) การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดเงื่อนไขในประกาศขายทอดตลาดทรัพย์และข้อตกลงในหนังสือสัญญาซื้อขายให้ผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดเป็นผู้ชำระค่าภาษีต่างๆ แล้วนำใบเสร็จรับเงินมาขอรับเงินคืนภายใน 15 วัน นับแต่วันรับหนังสือโอนกรรมสิทธิ์หรือภายใน 20 วัน นับแต่ชำระราคาครบถ้วน หากไม่มาขอคืนภายในกำหนดดังกล่าวถือว่าผู้ซื้อทรัพย์ไม่ติดใจขอรับเงินดังกล่าวคืนนั้น เป็นเพียงเพื่อให้การจัดการทรัพย์สินของจำเลยดำเนินไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว เมื่อจำหน่ายทรัพย์สินแล้วทรัพย์สินซึ่งเหลือจากที่กันไว้สำหรับค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องจัดการแบ่งในระหว่างเจ้าหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 124 การทำบัญชีแสดงรายการรับ – จ่ายเงิน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สามารถกันเงินในส่วนที่ผู้ซื้อทรัพย์จะมาขอรับเงินที่จ่ายเป็นค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายคืนได้ แล้วแจ้งให้ผู้ซื้อทรัพย์ทราบ หากผู้ซื้อทรัพย์ไม่มารับเงินดังกล่าวคืนภายในห้าปีนับแต่วันที่ศาลสั่งปิดคดีเงินดังกล่าวก็จะตกเป็นของแผ่นดินตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 176 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะกำหนดเงื่อนไขหรือข้อตกลงในประกาศขายทอดตลาดทรัพย์หรือหนังสือสัญญาซื้อขายให้ผู้ซื้อทรัพย์มารับเงินดังกล่าวคืนภายในกำหนดเวลาที่ผิดแผกแตกต่างจากบทกฎหมายดังกล่าวหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2545 และพิพากษาให้จำเลยล้มละลายเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2546 ต่อมาวันที่ 10 พฤศจิกายน 2548 ผู้คัดค้านขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 7002 ตำบลคลองนครเนื่องเขตร์ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ของจำเลยไปในราคา 15,000,000 บาท โดยผู้ร้องเป็นผู้ซื้อได้และเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548 ผู้ร้องได้ขอรับหนังสือแจ้งการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและเอกสารเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์จากผู้คัดค้านไปดำเนินการจดทะเบียนรับโอนที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2548 เจ้าพนักงานที่ดินเรียกเก็บภาษีเงินได้จากการขายอสังริมทรัพย์ซึ่งผู้ร้องชำระแทนจำเลยไปจำนวน 150,000 บาท ต่อมาวันที่ 29 ธันวาคม 2548 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนเงินที่ชำระเป็นค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายต่อผู้คัดค้าน แต่ผู้คัดค้านมีคำสั่งยกคำร้องเนื่องจากผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนเงินเกินระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือโอนกรรมสิทธิ์
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านจ่ายคืนเงินที่จ่ายแทนจำเลยเป็นค่าภาษีดังกล่าวแก่ผู้ร้อง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า กรณีมีปัญหาตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมีสิทธิขอรับคืนเงินที่ผู้ร้องจ่ายแทนจำเลยเป็นค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการขายทอดตลาดทรัพย์ของผู้คัดค้านหรือไม่ เห็นว่า การที่ผู้คัดค้านในฐานะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลย เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวเป็นเงินได้ของกองทรัพย์สินของจำเลย จำเลยโดยผู้คัดค้านมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (8) ที่ผู้คัดค้านกำหนดเงื่อนไขในประกาศขายทอดตลาดทรัพย์และข้อตกลงในหนังสือสัญญาซื้อขาย ให้ผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดเป็นผู้ชำระค่าภาษีต่างๆ จากการขายอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลรัษฎากร แล้วนำใบเสร็จรับเงินที่มีรายการชำระค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายมาขอคืนภาษีภายใน 15 วัน นับแต่วันรับหนังสือโอนกรรมสิทธิ์หรือภายใน 20 วันนับแต่ชำระราคาครบถ้วน หากไม่มาขอคืนภายในกำหนดดังกล่าวถือว่าผู้ซื้อทรัพย์ไม่ติดใจขอรับเงินภาษีคืน เป็นเพียงเพื่อให้การจัดการทรัพย์สินของจำเลยดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและสะดวกรวดเร็วเท่านั้น ทั้งเป็นประโยชน์แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ไม่จำต้องนำส่งหรือไปชำระภาษีดังกล่าวด้วยตนเองโดยผลักภาระให้ผู้ซื้อทรัพย์ไปชำระภาษีแล้วนำใบเสร็จรับเงินมาขอคืนเงินที่ชำระเป็นค่าภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ นอกจากนี้เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จำหน่ายทรัพย์ของจำเลยในคดีล้มละลายแล้ว ทรัพย์สินซึ่งเหลือจากที่กันไว้สำหรับค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องจัดแบ่งในระหว่างเจ้าหนี้โดยเร็ว การแบ่งทรัพย์สินต้องกระทำทุกระยะเวลาไม่เกินหกเดือนนับแต่วันที่ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย เว้นแต่ศาลจะได้อนุญาตให้ขยายเวลาต่อไปโดยมีเหตุสมควร ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 124 ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหน้าที่ต้องปฏิบัติต่อไปคือการจัดทำบัญชีแสดงรายการรับ – จ่าย และจ่ายเงินตามบัญชีแสดงรายการรับ – จ่ายนั้น ในการทำบัญชีแสดงรายการรับ – จ่ายเงิน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สามารถกันเงินในส่วนที่ผู้ซื้อทรัพย์จะมาขอรับคืนเงินที่จ่ายเป็นค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายได้ แล้วแจ้งให้ผู้ซื้อทรัพย์มารับเงินคืน หากผู้ซื้อทรัพย์ไม่มารับคืนภายในห้าปีนับแต่วันที่ศาลสั่งปิดคดีเงินดังกล่าวก็จะตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 176 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะกำหนดเงื่อนไขหรือข้อตกลงในประกาศขายทอดตลาดทรัพย์หรือหนังสือสัญญาซื้อขายโดยกำหนดเวลาให้ผู้ซื้อทรัพย์มารับเงินที่จ่ายเป็นค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายคืนภายในกำหนดเวลาที่ผิดแผกแตกต่างจากกำหนดเวลาตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวหาได้ไม่ คดีนี้ปรากฏว่า ภายหลังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังมิได้จัดทำบัญชีแสดงรายการรับ – จ่ายเงิน ที่ได้จากการขายทอดตลาดหรือดำเนินการใดเพื่อให้มีการจ่ายเงินที่จ่ายเป็นค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแก่ผู้ร้อง เมื่อผู้ร้องได้ชำระค่าภาษีเงินได้จากการขายที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดินแล้ว ผู้ร้องจึงมีสิทธิขอรับคืนเงินที่ผู้ร้องจ่ายแทนจำเลยไปเป็นค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการขายทอดตลาดของผู้คัดค้านได้ ผู้คัดค้านมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ร้อง ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับ ให้ผู้คัดค้านจ่ายเงินที่ผู้ร้องจ่ายแทนจำเลยเป็นค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจำนวน 150,000 บาท คืนให้แก่ผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share