แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2514 จำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้ร่วมกันข่มขู่หลอกลวงโจทก์ให้ย้ายตลาดนัดของโจทก์จากบ้านจำเลยที่ 4 ไปเปิดที่อื่น ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2515 จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ร่วมกันอนุญาตให้จำเลยที่ 4 เปิดตลาดนัดใหม่ที่บ้านจำเลยที่ 4 โดยจำเลยทั้งสี่รู้อยู่แล้วว่าการเปิดตลาดนัดดังกล่าวย่อมจะก่อความเสียหายแก่โจทก์ ทำให้กิจการตลาดนัดของโจทก์เสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์โจทก์ต้องขาดประโยชน์อันควรได้สัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 200 บาท นับจากเดือนพฤษภาคม 2515 ถึงวันฟ้องเป็นเงิน 4,800 บาท ขอศาลพิพากษาห้ามมิให้จำเลยที่ 4 เปิดดำเนินกิจการตลาดนัดและให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 4,800 บาทแก่โจทก์ดังนี้ แม้โจทก์จะได้รับความเสียหายจากการเปิดตลาดนัดใหม่มาแข่งขัน ก็หาเป็นเรื่องละเมิดไม่ เพราะการเปิดตลาดนัดใหม่ย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลในการประกอบอาชีพชอบที่จะดำเนินการขออนุญาตและเปิดได้ตามกฎหมาย ไม่ปรากฏว่ามีกฎหมายหรือข้อบังคับว่าเมื่อผู้ใดได้รับอนุญาตให้เปิดตลาดนัดแล้วจะอนุญาตให้ผู้อื่นเปิดตลาดนัดใกล้เคียงกันหรือในอำเภอเดียวกันไม่ได้
ส่วนฟ้องของโจทก์ที่ว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันข่มขู่หลอกลวงโจทก์ให้ย้ายตลาดนัดนั้นอาจจะเป็นละเมิดแต่โจทก์ก็มิได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเหตุที่โจทก์ถูกข่มขู่หลอกลวงให้ย้ายตลาดนัดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2514 โจทก์กลับฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2515 เนื่องจากเหตุที่มีการเปิดตลาดนัดแข่งกันทำให้โจทก์ขาดรายได้ไป ซึ่งมิใช่ความเสียหายที่เป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด จึงบังคับตามคำขอของโจทก์มิได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องว่า โจทก์เปิดตลาดนัดค้าขายวัวควายที่บ้านโจทก์ จำเลยที่ ๔ มาเป็นหุ้นส่วนเปิดตลาดนัดกับโจทก์และขยายตลาดนัดไปเปิดที่หน้าบ้านจำเลยที่ ๔ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ได้ร่วมกันข่มขู่หลอกลวงโจทก์ว่ามีผู้ร้องเรียนให้โจทก์ย้ายตลาดนัดไปที่อื่น มิฉะนั้นจำเลยทั้งสองจะดำเนินคดีกับโจทก์ โจทก์กลัวจึงจำต้องย้ายตลาดนัดไปเปิดที่บ้านของโจทก์ต่อมาเดือนพฤษภาคม ๒๕๑๕ จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ร่วมกันอนุญาตให้จำเลยที่ ๔ เปิดตลาดนัดที่บ้านของจำเลยที่ ๔ โดยจำเลยทั้งสี่รู้อยู่แล้วว่าการเปิดตลาดนัด ณ สถานที่ดังกล่าวย่อมจะก่อความเสียหายแก่โจทก์ทำให้กิจการตลาดนัดของโจทก์เสียหายการกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์โจทก์ต้องขาดประโยชน์อันควรได้สัปดาห์ละไม่น้อยกว่า ๒๐๐ บาท นับจากเดือนพฤษภาคม ๒๕๑๕ ถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๔,๘๐๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยที่สี่ปิดตลาดนัด และให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ให้การต่อสู้คดี
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องสืบพยาน และพิพากษาว่า แม้จะเป็นจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง การกระทำของจำเลยอาจเป็นละเมิดได้ก็เพียงการที่จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ (ความจริงจำเลยที่ ๑ ที่ ๒) ข่มขู่หลอกลวงให้โจทก์ย้ายตลาด ส่วนการที่จำเลยทั้งสี่ร่วมกันเข้าหุ้นเปิดตลาดใหม่นั้น หาเป็นการละเมิดต่อโจทก์แต่ประการใดไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามขอโดยอาศัยมูลดังกล่าวและขอบังคับจำเลยโดยอาศัยมูลการข่มขู่หลอกลวงโจทก์ให้ย้ายตลาดก็ไม่ได้ เพราะความเสียหายที่โจทก์อ้างและขอให้บังคับตามคำขอท้ายฟ้องหาเป็นผลเสียหายที่เกิดจากการข่มขู่หลอกลวงให้ย้ายตลาดไม่พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ไม่ปรากฏในคำฟ้องตอนใดเลยว่าจำเลยทั้งสี่ร่วมสมคบกันมาแต่เริ่มแรกแล้วที่จะข่มขู่หลอกลวงให้โจทก์ย้ายตลาดเพื่อให้จำเลยที่ ๔ มาเปิดตลาดนัดแทนกลับปรากฏตามคำฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันข่มขู่หลอกลวงโจทก์ให้ย้ายตลาดนัดตอนหนึ่งและจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ร่วมกันอนุญาตให้จำเลยที่ ๔ เปิดตลาดนัดใหม่อีกตอนหนึ่งเท่านั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การเปิดตลาดนัดใหม่ย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลในการประกอบอาชีพ ชอบที่จะดำเนินการขออนุญาตและเปิดได้ตามกฎหมาย ไม่ปรากฏว่ามีกฎหมายหรือข้อบังคับว่าเมื่อผู้ใดได้รับอนุญาตให้เปิดตลาดแล้ว จะอนุญาตให้ผู้อื่นเปิดตลาดนัดใกล้เคียงกันหรือในอำเภอเดียวกันไม่ได้ แม้โจทก์จะได้รับความเสียหายจากการเปิดตลาดนัดใหม่มาแข่งขัน ก็หาเป็นเรื่องละเมิดไม่ส่วนตามฟ้องที่ว่าจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันข่มขู่หลอกลวงโจทก์ให้ย้ายตลาดนัดนั้นอาจเป็นละเมิด แต่โจทก์ก็มิได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเหตุที่โจทก์ถูกข่มขู่หลอกลวงให้ย้ายตลาดนัดเมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๑๔ โจทก์กลับฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นค่าขาดผลประโยชน์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๑๕ เนื่องจากเหตุที่มีการเปิดตลาดนัดแข่งขันทำให้โจทก์ขาดรายได้ไปซึ่งมิใช่ความเสียหายที่เป็นผลโดยตรงจากการทำละเมิด จึงบังคับตามคำขอของโจทก์มิได้
พิพากษายืน