แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายผู้ถือ โจทก์เป็นผู้รับโอนเช็คจึงเป็นผู้ถือและเป็นผู้ทรงซึ่งมีอำนาจฟ้องจำเลยให้รับผิดตามเช็คได้ จำเลยไม่อาจต่อสู้โจทก์ผู้ทรงด้วยข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อนเว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลตาม ป.พ.พ. มาตรา 916 ประกอบ มาตรา 989 จำเลยให้การเพียงว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คให้ ส. เพื่อค้ำประกันโดยไม่มีมูลหนี้ จำเลยชำระหนี้ตามเช็คให้แก่ ส.แล้วแต่ส.ใช้อุบายชั้นเชิงให้โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต คำให้การดังกล่าวไม่ชัดแจ้งว่ามีการโอนเช็คด้วยคบคิดกันฉ้อฉลอย่างไร โจทก์ไม่สุจริตอย่างไร จึงไม่ก่อให้เกิดประเด็นข้อพิพาทแห่งคดี และไม่จำต้องสืบพยาน เมื่อจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คย่อมต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับโจทก์จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่นายสมชาย จงชนะเดชวงศ์ โดยไม่มีมูลหนี้แต่ออกให้เพื่อเป็นการค้ำประกันในการที่จำเลยได้จัดตั้งบริษัทโกเนวี่ จำกัด ต่อมาเกิดกรณีพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้น จำเลยจึงให้นายสมชายโอนหุ้นคืนให้แก่จำเลย จำเลยได้ชำระหนี้ตามเช็คพิพาทให้นายสมชายไปแล้ว 20,000 บาท แต่ด้วยอุบายและชั้นเชิงของนายสมชายจึงให้โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ แสดงว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์ 54,200 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้จากคำฟ้องและคำให้การจำเลยว่า จำเลยได้ออกเช็คพิพาทสั่งจ่ายเงิน 54,200 บาท จริงและเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ โจทก์เป็นผู้รับโอนเช็คพิพาทมาจึงเป็นผู้ถือย่อมเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 904 มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดตามเช็คได้ จำเลยถูกฟ้องในมูลหนี้ตามตั๋วเงินคือเช็คพิพาทไม่อาจต่อสู้ผู้ทรงคือโจทก์ด้วยข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อน เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 ประกอบด้วยมาตรา 989 ตามคำให้การของจำเลยให้การเพียงว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้นายสมชาย จงชนะเดชวงศ์ โดยไม่มูลหนี้ แต่เป็นการค้ำประกันในการที่จำเลยจัดตั้งบริษัทขึ้น คำให้การดังกล่าวมีลักษณะเป็นการกล่าวถึงความเกี่ยวพันระหว่างจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทกับนายสมชายซึ่งเป็นผู้ทรงคนก่อน ฉะนั้นจำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้ทรงเช็คพิพาทว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ต่อกันไม่ได้ ต้องห้ามตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 916ดังกล่าว ที่จำเลยให้การว่า จำเลยได้ชำระหนี้ตามเช็คพิพาทให้แก่นายสมชายไปแล้ว 20,000 บาท แต่ด้วยอุบายและชั้นเชิงของนายสมชายจึงให้โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้นั้น จำเลยไม่ได้ให้การชัดแจ้งว่ามีการโอนเช็คพิพาทและคบคิดฉ้อฉลกันอย่างไร และเห็นว่าในเบื้องต้นต้องถือว่าโจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 การที่นายสมชายฝ่ายเดียวใช้อุบายและชั้นเชิงให้โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ก็ไม่เป็นข้อต่อสู้ที่จำเลยจะยกขึ้นใช้ยันกับโจทก์ได้ตามมาตรา 905 และมาตรา 916 ที่จำเลยให้การว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตก็มิได้บรรยายให้ชัดว่า โจทก์ไม่สุจริตอย่างไร คำให้การจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสอง ย่อมไม่ก่อให้เกิดประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีจึงไม่ต้องสืบพยานโจทก์จำเลย และคดีวินิจฉัยได้โดยไม่จำเป็นต้องพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์จำเลยนำสืบมาแล้ว การที่จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาท จำเลยจึงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตามมาตรา 900 เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คนั้นให้แก่โจทก์ตามมาตรา 914 ประกอบด้วยมาตรา 989 ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามเช็คพิพาทพร้อมดอกเบี้ยมานั้น ศาลฎีกาเห็นด้วยในผล ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.