แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ภายหลังเจ้ามรดกตายเกิน 1 ปีแล้ว ผู้ปกครองของผู้เยาว์ผู้รับมรดกได้ยินยอมตกลงปฏิบัติตามสัญญาจะขายที่ดินที่ผู้ตายเจ้ามรดกได้ทำไว้ เรียกได้ว่าเป็นการรับสภาพต่อเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 188 วรรคท้าย กรณีเช่นนี้ หาใช่เป็นการทำนิติกรรมขายที่ดินมรดกขึ้นใหม่อันจะต้องขออนุญาตต่อศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๙ นายเคลื้อมบิดาจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินเฉพาะส่วนของตนตามโฉนดที่ ๕๙๙๒ เนื้อที่ ๒๕ ไร่ ๒ งาน ราคา ๒๐,๐๐๐ บาท ชำระเงินในวันทำสัญญา ๕,๐๐๐ บาท เมื่อปลาย พ.ศ.๒๕๐๐ โจทก์ชำระเงินอีก ๕,๐๐๐ บาท นายเคลื้อมจัดให้โจทก์เข้าครอบครองทำนาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๑ ตลอดมา ปลาย พ.ศ.๒๕๐๐ นายเคลื้อมตาย จำเลยรับมรดกที่ดินดังกล่าว ศาลมีคำสั่งให้นายโชติเป็นผู้ปกครองจำเลย ปลาย พ.ศ.๒๕๐๓ หรือ ต้น พ.ศ.๒๕๐๔ โจทก์ตกลงกับนายโชติว่าจะชำระเงินสิ้นเชิงในวันไถ่ถอนจำนองพร้อมกับโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ นายโชติรับเงินไปจากโจทก์อีก ๑,๐๐๐ บาท อันเป็นการรับสภาพหนี้ตามสัญญาจะซื้อจะขาย แต่จำเลยทำผิดสัญญาได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่นายเงินเสีย จึงขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยคืนเงิน ๑๑,๐๐๐ บาทกับดอกเบี้ย
จำเลยให้การปฏิเสธ และว่าโจทก์ฟ้องหลังจากบิดาตายเกิน ๑ ปี คดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า นายเคลื้อมบิดาจำเลยได้ทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้โจทก์เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ได้รับเงินราคาที่ดินไว้แล้ว ๑๐,๐๐๐ บาท นายเคลื้อมยอมให้โจทก์เข้าทำนาพิพาทตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๑ ต่อมาเดือนธันวาคม ๒๕๐๑ นายเคลื้อมตาย จำเลยเป็นผู้รับมรดกและศาลมีคำสั่งตั้งนายโชติเป็นผู้ปกครอง นายโชติพูดขอเงินโจทก์อีก ๑๐,๐๐๐ บาทเพื่อโอนมาให้โจทก์ตามสัญญา แต่โจทก์ขอให้โอนกรรมสิทธิ์กันเสียก่อนจึงจะจ่ายเงิน นายโชติได้รับเงินไปจากโจทก์ ๑,๐๐๐ บาท เพื่อจัดการไถ่ถอนที่นาพิพาทจากการจำนอง แล้วจะโอนให้โจทก์ และวินิจฉัยว่า ผู้ปกครองจำเลยรับเงินจากโจทก์โดยรับรองจะปฏิบัติตามสัญญาต่อไป เป็นกรณีที่มิได้รับอนุญาตจากศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๕+๖ ไม่ถือว่าเป็นการรับสภาพหนี้อันจะผูกพันจำเลย โจทก์มิได้ฟ้องเรียกเงินคืนภายใน ๑ ปี นับแต่นายเคลื้อมตาย คดีขาดอายุความ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษากลับให้จำเลยคืนเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยฎีกาว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความ
ศาลฎีกาเห็นว่า นายเคลื้อมผู้ตายได้ตกลงทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่โจทก์และโจทก์ได้ชำระราคาไปบางส่วนแล้ว ผู้ตายยังได้มอบที่ดินให้โจทก์ครอบครองทำนาด้วย เมื่อนายเคลื้อมตาย โจทก์เป็นผู้ปกครองเด็กชายชาญตามคำสั่งศาลก็ยังได้รับรองจะขายที่ดินรายนี้ให้แก่โจทก์+ ตกลงยอมรับปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้+ได้ทำไว้กับโจทก์ และได้ยอมให้โจทก์ครอบครองทำนาตลอดมา การที่นายโชติในฐานะผู้ปกครองกระทำเช่นนี้ มิใช่เป็นการทำนิติกรรมขายที่ดินมรดกขึ้นใหม่+ต้องขออนุญาตต่อศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๔๖ เพราะเป็นเรื่องที่ตกลงทำสัญญาขายให้แก่โจทก์ไว้ก่อนแล้ว นายโชติในฐานะผู้ปกครองจำเลยผู้รับมรดกได้ยอมตกลงปฏิบัติตามสัญญาที่ผู้ตายซึ่งเป็นเจ้ามรดกได้ทำไว้นั่นเอง เรียกได้ว่าจำเลยได้รับสภาพ+ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๘๘ วรรคท้าย คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน