คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1837/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุตรบุญธรรมตามกฎหมายเก่า และไม่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585 ไม่มีสิทธิรับมรดก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ 40 ปีมานี้ จำเลยได้นางฉ่ำพี่สาวโจทก์เป็นภรรยา แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน นางฉ่ำตาย โจทก์จึงมีสิทธิได้รับมรดกของนางฉ่ำด้วยคนหนึ่ง

จำเลยให้การว่า นางฉ่ำเป็นพี่สาวโจทก์ และเป็นภรรยาจำเลยนางฉ่ำและจำเลยมีบุตรบุญธรรมคนหนึ่ง โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับมรดกเพราะมีบุตรบุญธรรมเป็นทายาท

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บุตรบุญธรรมของนางฉ่ำและจำเลยเป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมายเก่า และไม่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585 จึงไม่มีสิทธิได้รับมรดก และได้แบ่งทรัพย์มรดกให้จำเลยครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งให้แก่ทายาท โจทก์ได้รับทรัพย์มรดก 1 ใน 5 ของมรดกที่แบ่งให้แก่ทายาท เพราะปรากฏว่าโจทก์มีพี่น้องร่วมบิดามารดาและมีชีวิตอยู่อีก 4 คน

จำเลยอุทธรณ์ว่า บุตรบุญธรรมตามกฎหมายเก่ามีสิทธิรับมรดก

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามกฎหมายเก่านั้น ไม่มีบทบัญญัติให้บุตรบุญธรรมรับมรดกได้ตามแบบอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2493คดีระหว่างนายทอง จันทร์เหลือง โจทก์ นายจุด ไทรงาม จำเลย ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 บัญญัติว่า บุตรบุญธรรมรับมรดกได้นั้น หมายถึงบุตรบุญธรรมที่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585 เท่านั้น ฉะนั้น บุตรบุญธรรมตามกฎหมายเก่าและไม่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585จึงไม่มีสิทธิได้รับมรดก ส่วนที่พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติ บรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4(2) บัญญัติว่าบทบัญญัติแห่งบรรพนี้ไม่กระทบกระเทือนถึงการรับบุตรบุญธรรมซึ่งมีอยู่ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายบรรพนี้ นั้น หมายความว่าบุตรบุญธรรมตามกฎหมายเก่ามีสิทธิอยู่แล้วอย่างไร ก็คงมีอยู่ตามเดิม การที่วินิจฉัยว่า บุตรบุญธรรมตามกฎหมายเก่าไม่มีสิทธิได้รับมรดก จึงหาเป็นการกระทบกระเทือนหรือตัดรอนสิทธิของบุตรบุญธรรมตามกฎหมายเก่าแต่ประการใดไม่ เพราะเดิมก็ไม่มีสิทธิได้รับมรดกอยู่แล้ว

พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฎีกาจำเลย ให้จำเลยเสียค่าทนายความชั้นฎีกา 150 บาทแทนโจทก์

Share