คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2000/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่มีอำนาจโดยพละการตนเองที่จะสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหะคนใด รื้อเคหะหรืออาคารนอกจากจะร้องขอต่อศาลตามความใน พ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 89
ฉะนั้นถ้าเจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้ผู้ครอบครองเคหะรื้อเคหะนั้นโดยพละการตนเองคำสั่งนั้นก็เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่จำต้องปฏิบัติตาม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวของโจทก์ บัดนี้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีคำสั่งให้โจทก์รื้อถอนตึกหลังนี้ แต่จำเลยไม่ยอมออก จึงขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่า
จำเลยต่อสู้ว่า คำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ไม่ชอบกฎหมายจำเลยไม่ต้องปฏิบัติตาม
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำสั่งนายกเทศมนตรี เป็นการเกินเลยขอบเขตหน้าที่เกี่ยวกับการจำกัดห้ามระวังเหตุรำคาญเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ โจทก์ไม่จำต้องปฏิบัติตาม พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่า
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเเห็นว่า ตาม พ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ.๒๔๘๔ ไม่มีบทใดให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหะคนใดรื้อเคหะหรืออาคารตามพละการตนเองได้ นอกจากจะร้องขอต่อศาลให้เจ้าของรื้อ และศาลจะสั่งได้แต่ในกรณีที่ได้ออกคำสั่งปิดเกี่ยวแก่เคหะใด และคำสั่งนั้นยังมิได้เพิกถอน ถ้าปรากฎว่า
๑. เคหะนั้นยังมิได้ทำให้สมเป็นที่คนอยู่
๒. ยังมิได้ลงมือจัดการตามความจำเป็น โดยใช้ความอุตสาหะทุกประการตามควรเพื่อให้เคหะนั้น สมเป็นที่คนอยู่
๓. การคงอยู่ของอาคารอันเป็นเคหะ หรือส่วนของเคหะเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายแก่สุขภาพหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือ ผู้ที่อยู่ในเคหะใกล้เคียง
ฉะนั้น คำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นดังกล่าวแล้ว จึงเกินขอบเขตแห่งหน้าที่ เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share