แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสนั้น พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัวพุทธศักราช 2478 มาตรา 10 บัญญัติให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนสมรสให้เมื่อมีการร้องขอ การที่นายทะเบียนจะปฏิเสธได้ก็ต่อเมื่อปรากฏว่ามิได้เป็นไปตามเงื่อนไขแห่ง มาตรา 1448 ถึงมาตรา 1454 และมาตรา 1458 ตามที่ได้ ตรวจชำระใหม่ ซึ่งมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 ห้ามมิให้นายทะเบียนจดทะเบียนสมรสในกรณีที่นายทะเบียนไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรส ผู้มีส่วนได้เสียก็มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องต่อศาล โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม เมื่อศาลไต่สวนได้ความว่าการเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกฎหมายครบถ้วนแล้ว ก็ให้ศาลมีคำสั่งไปให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนได้ตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องทั้งสองเป็นบุคคลสัญชาติญวน ผู้ร้องทั้งสองได้ทำการสมรสกันตามประเพณี ที่ตำบลหนองแสง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม มีบุตรด้วยกัน ๖ คน เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๒๕ ผู้ร้องทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสต่อนายทะเบียน แต่นายทะเบียนไม่ยอมจดทะเบียนสมรสให้ จึงขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งให้นายทะเบียนทำการจดทะเบียนสมรสให้แก่ผู้ร้องทั้งสอง
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้ร้องทั้งสองไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอทำการจดทะเบียนสมรส ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้นายทะเบียนประจำสำนักทะเบียนอำเภอเมืองนครพนมทำการจดทะเบียนสมรสระหว่างผู้ร้องทั้งสอง
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เกี่ยวกับการรับจดทะเบียนสมรสนั้น พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช ๒๔๗๘ มาตรา ๑๐ บัญญัติให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนสมรสให้เมื่อมีการร้องขอ การที่นายทะเบียนจะปฏิเสธได้ก็ต่อเมื่อปรากฏว่ามิได้เป็นไปตามเงื่อนไขแห่งมาตรา ๑๔๔๕, ๑๔๔๖, ๑๔๔๗แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือมาตรา ๑๔๔๘ ถึงมาตรา ๑๔๕๔และมาตรา ๑๔๕๘ ตามที่ได้ตรวจชำระใหม่ ซึ่งมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช ๒๔๗๘ ห้ามมิให้นายทะเบียนจดทะเบียนสมรสในกรณีที่นายทะเบียนไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรส ผู้มีส่วนได้เสียก็มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องต่อศาล โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม เมื่อศาลไต่สวนได้ความว่าการเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกฎหมายครบถ้วนแล้ว ก็ให้ศาลมีคำสั่งไปให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนได้ตามมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว คดีนี้นายทะเบียนอ้างเหตุผลที่ไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรสตามที่ผู้ร้องอ้างเพียงว่าเป็นการขัดต่อนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ไม่ให้รับจดทะเบียนสมรสให้กับบุคคลสัญชาติญวนที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองเท่านั้น ดังภาพถ่ายคำร้องขอจดทะเบียนสมรสท้ายคำร้อง นายทะเบียนไม่ได้อ้างเหตุผลที่ไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรสว่าการสมรสของผู้ร้องไม่เป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกฎหมายเพิ่งจะอ้างเป็นข้อคัดค้านภายหลัง ประกอบกับการพิจารณาคำร้องศาลต้องไต่สวนให้ได้ความว่าการสมรสได้เป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกฎหมายครบถ้วนแล้ว จึงจะมีคำสั่งไปให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนได้ คุณสมบัติต่าง ๆของผู้ร้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงเป็นข้อที่ผู้ร้องสามารถแสดงในชั้นไต่สวนคำร้องของศาลได้หาจำต้องระบุรายละเอียดไว้ในคำร้องด้วยไม่ เพราะถึงอย่างไรศาลก็ต้องไต่สวนให้ได้ความอยู่แล้ว ที่ผู้ร้องระบุในคำร้องว่าผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายที่จะทำการสมรสกันได้ก็เป็นการเพียงพอแล้วจึงเป็นคำร้องที่ศาลชอบที่จะรับไว้พิจารณาได้ แต่คดีนี้ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยในปัญหาตามอุทธรณ์ของผู้คัดค้านที่ว่าผู้ร้องไม่มีนคุณสมบัติตามเงื่อนไขการสมรสและเหตุผลที่นายทะเบียนปฏิเสธไม่ยอมรับจดทะเบียนสมรสตามที่ผู้ร้องร้องขอเป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาเห็นสมควรให้ได้รับการวินิจฉัยตามคำลำดับชั้นศาล
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามนัยดังกล่าวข้างต้น