แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์ต้องเสียค่าบริการพูดโทรศัพท์ตามอัตราที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยกำหนด ค่าใช้บริการจึงเป็นสินจ้างและถือได้ว่าองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยเป็นผู้ค้าโดยรับทำการงานเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น หนี้ค่าใช้บริการดังกล่าวจึงมีอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(7).
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโทรศัพท์ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เช่าและใช้บริการโทรศัพท์ จำเลยเป็นผู้เช่าใช้บริการโทรศัพท์ ต่อมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2525 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2527 จำเลยไม่ชำระค่าเช่าและค่าใช้บริการรวมเป็นเงิน 34,984 บาท ขอให้จำเลยชำระเงินค่าเช่าและค่าใช้บริการจำนวน 40,871 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จากต้นเงินจำนวน 34,784 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เพราะโจทก์เป็นผู้ค้าหรือผู้รับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับการจ้าง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 40,871 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงิน 34,784 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าเช่า ค่าบำรุงรักษาเครื่องโทรศัพท์และอุปกรณ์ เป็นเงิน 1,600 บาท ค่าเครื่องโทรศัพท์และอุปกรณ์ของโจทก์เป็นเงิน 1,300 บาท รวมเป็นเงิน 2,900บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าหนี้ค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์ของโจทก์ที่จำเลยต้องรับผิดชดใช้ (หักค่าเช่าและค่าบำรุงรักษาจำนวน 1,600 บาทออกแล้ว) เป็นเงิน 33,384 บาท เกิดขึ้นระหว่างเดือนเมษายน 2525ถึงเดือนพฤศจิกายน 2527 โจทก์นำคดีมาฟ้องเมื่อวันที่ 30 เมษายน2530 ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า คดีของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับหนี้ค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์ขาดอายุความหรือไม่พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า แม้โจทก์จะเป็นนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2497 มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดดำเนินการและนำมาซึ่งความเจริญของกิจการโทรศัพท์ เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชนและดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโทรศัพท์และธุรกิจอื่นที่ต่อเนื่องใกล้เคียงกันหรือเพื่อประโยชน์แก่กิจการโทรศัพท์ก็ตาม แต่เมื่อผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดโทรศัพท์ติดต่อกับผู้อื่น ผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์จะต้องเสียค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์ตามอัตราที่โจทก์กำหนดไว้ ค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์ดังกล่าวจึงเป็นสินจ้างนั่นเอง กรณีดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้าโดยรับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) ซึ่งมีอายุความ 2 ปี…”
พิพากษายืน.