คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1824/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีงดการขายทอดตลาดครั้งที่ 5ซึ่งมีผู้ให้ราคาสูงสุดถึง 2,200,000 บาทนั้น เนื่องจากเป็นความประสงค์ของจำเลยเองที่ขอให้งดการขายไว้ และต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ได้พยายามขายทรัพย์อีกถึง 5 ครั้ง จนในที่สุดมีผู้ให้ราคาสูงสุดเพียง 2,000,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงตกลงขายให้ เช่นนี้ ถือว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้พยายามขายทรัพย์ให้ได้ราคาสูงสุดในเวลาที่เหมาะสมแล้ว และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริตหรือมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติและข้อบังคับที่กำหนดไว้ว่าด้วยวิธีการขายทอดตลาดแต่อย่างใด จำเลยย่อมไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและประกาศขายทอดตลาดใหม่ได้อีกข้ออ้างของจำเลยที่ว่า การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีทำให้จำเลยเสียหายและเสียเปรียบนั้น ไม่อาจยกขึ้นเป็นเหตุร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโดยชอบได้

ย่อยาว

มูลกรณีสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีตกลงขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยแก่โจทก์ในฐานะผู้ซื้อทรัพย์ที่ให้ราคาสูงสุด จำเลยยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดโดยมิชอบศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงตามหลักฐานในสำนวนฟังได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์รายนี้เมื่อวันที่ 13กุมภาพันธ์ 2527 และเจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดครั้งแรกในวันที่ 13 กันยายน 2527 ครั้นถึงวันขาย ปรากฏว่าผู้แทนโจทก์แถลงขอให้งดการขายไว้และแถลงขอให้ประกาศขายทอดตลาดใหม่อีกครั้งหนึ่ง เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงประกาศขายทอดตลาดครั้งที่ 2 ในวันที่ 11 มกราคม 2528 ครั้นถึงวันขาย ปรากฏว่าผู้แทนโจทก์ขอให้งดการขายไว้ และแถลงขอให้ประกาศขายทอดตลาดอีกครั้งหนึ่ง เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงประกาศขายทอดตลาดครั้งที่ 3ในวันที่ 11 เมษายน 2528 ครั้นถึงวันขายปรากฏว่าไม่มีผู้สนใจเข้าสู้ราคา เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้งดการขายไว้ และได้ประกาศขายทอดตลาดครั้งที่ 4 ในวันที่ 11 มิถุนายน 2528 ครั้นถึงวันขายปรากฏว่าผู้แทนโจทก์แถลงขอให้งดการขายไว้ และได้แถลงขอให้ประกาศขายใหม่อีกครั้งหนึ่ง เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงประกาศขายทอดตลาดครั้งที่ 5 ในวันที่ 14 สิงหาคม 2528 ครั้นถึงวันขายปรากฏว่ามีผู้สนใจเข้าสู้ราคาแต่ราคาสูงสุดที่ให้ยังต่ำไป จำเลยแถลงขอให้งดการขายไว้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้งดการขายไว้และประกาศขายใหม่เป็นครั้งที่ 6 ในวันที่ 27 กันยายน 2528ครั้นถึงวันขายปรากฏว่าไม่มีผู้สนใจเข้าสู้ราคา ผู้แทนโจทก์แถลงขอให้งดการขายไว้ และขอให้ประกาศขายใหม่อีกครั้งหนึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ประกาศขายทอดตลาดใหม่เป็นครั้งที่ 7ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2528 ครั้นถึงวันขายปรากฏว่าผู้แทนโจทก์แถลงขอให้งดการขายไว้และแถลงขอให้ประกาศขายใหม่อีกครั้งหนึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ประกาศขายทอดตลาดเป็นครั้งที่ 8ในวันที่ 7 มกราคม 2529 ครั้นถึงวันขายปรากฏว่ามีผู้สนใจเข้าสู้ราคา แต่ราคาสูงสุดที่ให้ยังต่ำไป เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้งดการขายไว้ และได้ประกาศขายทอดตลาดใหม่เป็นครั้งที่ 9ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2529 ครั้นถึงวันขาย ปรากฏว่ามีผู้สนใจเข้าสู้ราคา แต่ราคาสูงสุดที่ให้ยังต่ำไป เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้งดการขายไว้ และได้ประกาศขายใหม่เป็นครั้งที่ 10 ในวันที่10 เมษายน 2529 ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้ประมูลได้โดยให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน 2,000,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงตกลงขายทรัพย์รายนี้ให้แก่โจทก์ในราคาดังกล่าว
พิเคราะห์แล้ว การที่จะขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดได้นั้น ความต้องปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาด โดยไม่สุจริตหรือดำเนินการขายทอดตลาดโดยมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติงและข้อบังคับที่กำหนดไว้ว่าด้วยวิธีการขายทอดตลาดเท่านั้น คดีนี้ปรากฏว่าเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์เป็นครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2528 มีผู้สนใจเข้าสู้ราคาปรากฏตามคำร้องของจำเลยลงวันที่ 14 เมษายน 2529 รับว่าการขายทอดตลาดในครั้งนี้มีผู้ประมูลหรือสู้ราคาถึง 2,200,000 บาท `เห็นว่าเหตุที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ขายทรัพย์ให้แก่ผู้ให้ราคาสูงสุดในครั้งนั้นเพราะจำเลยแถลงขอให้งดการขายไว้เนื่องจากราคาสูงสุดที่ให้ยังต่ำไป (ตามหนังสือที่ ยธ.0312/2430 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2528อยู่ในสำนวนอันดับที่ 25/2) เช่นนี้ เห็นว่าไม่ใช่ความผิดของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิบัติโดยมิชอบแต่ประการใด แต่เป็นความประสงค์ของจำเลยที่ขอให้จดการขายไว้ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ยอมงดการขายให้ ปรากฏว่าได้มีการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์รายนี้มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2527 และมีการเลื่อนการขายมาเกือบ 10 ครั้งแล้ว แม้ว่าการขายครั้งที่ 5เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2528 มีผู้ให้ราคาสูงสุดถึง 2,200,000 บาทก็ยังไม่เป็นที่พอใจของจำเลย ซึ่งจำเลยก็ได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีงดการขายไว้ และต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ได้พยายามขายทรัพย์อีกถึง 5 ครั้งในที่สุดมีผู้ให้ราคาสูงสุดเพียง 2,000,000บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ตกลงขายให้ เช่นนี้ ถือว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้พยายามขายทรัพย์ให้ได้ราคาสูงสุดในเวลาที่เหมาะสมแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2529 โดยไม่สุจริตหรือดำเนินการขายทอดตลาดโดยมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติและข้อบังคับที่กำหนดไว้ว่าด้วยวิธีการขายทอดตลาดแต่อย่างใด ฉะนั้นจำเลยย่อมไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด และประกาศขายทอดตลาดใหม่ได้อีก ข้ออ้างของจำเลยที่ว่า การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีทำให้จำเลยเสียหายและเสียเปรียบนั้น ไม่อาจยกขึ้นเป็นเหตุร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโดยชอบได้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาให้ยกคำร้องของจำเลยเสียนั้น ชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share