แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ราคาที่ถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษีศุลกากรต้องเป็นราคาอันแท้จริงมิใช่ราคาที่ซื้อเงินเชื่อซึ่งรวมดอกเบี้ยด้วยการหักดอกเบี้ยที่เกิดจากการซื้อเงินเชื่อออกก่อนแล้วจึงเสียภาษี จึงเป็นการเสียภาษีที่ถูกต้องแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระอากรขาเข้าภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาลพร้อมเงินเพิ่ม เพิ่มเติมจากที่จำเลยที่ 1 ผู้นำเข้าเคยชำระไว้แล้ว อ้างว่าที่ชำระไว้แล้วยังไม่ถูกต้อง
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 1 ได้ชำระภาษีอากรสำหรับสินค้าที่นำเข้าถูกต้องแล้ว
ศาลภาษีอากรกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระภาษีอากรบางส่วนแก่โจทก์ทั้งสอง ส่วนที่เหลือให้ยกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยนำสืบรับกันฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ได้นำสินค้าเครื่องยนต์และโซ่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยสำแดงราคาสินค้าและชำระภาษีอากรขาเข้าแล้ว ปรากฏตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย จ.5, จ.6, จ.8, จ.10, จ.13 และ จ.14ต่อมาเจ้าหน้าที่กองป้องกันและปราบปรามของโจทก์ที่ 1 ได้ไปตรวจค้นสำนักงานห้างจำเลยที่ 1 พบและยึดเอกสารยืนยันการขายตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย จ.5, จ.6 ศาลหมาย จ. 3 เอกสารยืนยันการขายตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย จ.8 ศาลหมาย จ.7เอกสารยืนยันการขายตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย จ.10 ศาลหมาย จ.9 การซื้อขายสินค้าที่จำเลยที่ 1นำเข้าตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย จ.5, จ.6, จ.8 และ จ.10 นั้น การชำระเงินกระทำโดยการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตชนิดเพิกถอนไม่ได้ กำหนดชำระราคาสินค้าภายใน 180 วันนับแต่วันส่งสินค้าลงเรือ กับยึดจดหมายซึ่งจำเลยที่ 2 ทำขึ้นในนามของจำเลยที่ 1 อีก 2 ฉบับเอกสารหมาย จ.11, จ.12
ปัญหาที่วินิจฉัยในชั้นนี้มีว่า การประเมินภาษีเพิ่มสำหรับสินค้าตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย จ.5,จ.6, จ.8 และ จ.10 ของโจทก์ชอบหรือไม่
พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงได้ความว่า การซื้อขายรายนี้จำเลยชำระเงินโดยการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตชนิดเพิกถอนไม่ได้ กำหนดชำระภายใน 180 วันนับแต่วันที่ผู้ขายส่งสินค้าลงเรือ แสดงว่าผู้ขายจะไม่ได้รับเงินทันที แต่จะได้รับเงินเมื่อครบกำหนด180 วันนับแต่วันที่ส่งสินค้าลงเรือ จึงเป็นการซื้อขายเงินเชื่อน่าเชื่อว่าผู้ขายจะต้องคิดดอกเบี้ยจากจำเลยซึ่งเป็นผู้ซื้อภายในระยะเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย จ.5, จ.6, จ.8 และ จ.10 ซึ่งมีบัญชีราคาสินค้ากำกับมา ก็ระบุจำนวนดอกเบี้ยที่จำเลยขอหักออกจากราคาสินค้าในขณะที่กระทำพิธีการศุลกากรตอนนำเข้า และเจ้าหน้าที่ของโจทก์ที่ 1 ได้ตรวจถูกต้องแล้วยอมให้จำเลยหักออกได้ แม้ในเอกสารยืนยันการขายและโทรพิมพ์เอกสารหมาย จ.3, จ.7 และ จ.9มิได้ระบุถึงเรื่องดอกเบี้ยไว้ แต่นายลือชัย โพธิสุข พยานโจทก์เบิกความว่า ราคาสินค้าที่สำแดงในบัญชีราคาสินค้าประกอบใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย จ.8เมื่อรวมดอกเบี้ยร้อยละ 6.8 ตามที่ระบุในบัญชีสินค้าเข้าด้วยแล้วราคาสินค้าต่อหน่วยจะเท่ากับที่ระบุไว้ในใบยืนยันการขายเอกสารหมาย จ.7 กล่าวคือ จำนวน 4.83 ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาและเมื่อนำราคาสินค้าต่อหน่วยตามที่จำเลยสำแดงราคาไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย จ.10มารวมกับดอกเบี้ยตามอัตราที่ระบุในบัญชีราคาสินค้าแผ่นที่ 3 แล้วราคาสินค้าหน่วยเท่ากับที่ระบุในโทรพิมพ์เอกสารหมาย จ.9 แผ่นแรกบ่งชี้ให้เห็นได้ว่าสินค้าตามที่ปรากฏในเอกสารยืนยันการขายและโทรพิมพ์เอกสารหมาย จ.7, จ.8 และ จ.9 เป็นราคาที่ผู้ขายได้คิดรวมเอาดอกเบี้ยที่จำเลยจะต้องชำระภายในกำหนดระยะเวลา180 วันนับแต่วันที่ส่งสินค้าลงเรือรวมเข้าด้วยกันแล้ว แม้ในเอกสารยืนยันการขายและโทรพิมพ์จะไม่ได้ระบุเรื่องดอกเบี้ยไว้ก็ตาม แต่จากเหตุที่ราคาที่ผู้ขายคิดในเอกสารนั้นเท่ากับราคาที่รวมดอกเบี้ยแล้วในเอกสารหมาย จ. 8 และ จ.10ดังได้กล่าวมาข้างต้น ประกอบกับการซื้อขายได้กำหนดเงื่อนเวลาการชำระเงินไว้ถึง 180 วันนับจากวันที่ผู้ขายส่งสินค้าลงเรือข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่ามีการคิดดอกเบี้ยกันตามจำนวนที่ระบุไว้ในบัญชีราคาสินค้าที่จำเลยได้ยื่นประกอบใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเอกสารหมาย จ.5, จ.6, จ.8 และ จ.10 จำเลยย่อมขอหักดอกเบี้ยดังกล่าวออกจากราคาสินค้าได้ เพราะราคาที่ถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษีอากรต้องเป็นราคาที่แท้จริงมิใช่ราคาที่ซื้อเงินเชื่อซึ่งรวมดอกเบี้ยด้วย โจทก์ไม่มีสิทธิประเมินราคาสินค้าซึ่งจำเลยนำเข้าเพิ่ม การประเมินภาษีอากรเพิ่มเติมสำหรับใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าตามเอกสารหมาย จ.5, จ.6, จ.8 และ จ.10 จึงไม่ชอบ คำพิพากษาศาลภาษีอากรกลางต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาอุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน