แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปืนของกลางเป็นของผู้มีชื่อฝากจำเลยถือไว้ชั่วขณะที่ผู้มีชื่อไปซื้อบุหรี่ห่างจากที่จำเลยยืนคอยเพียง 10 วา ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในปืนนั้น เพราะจำเลยมิได้ยึดถือไว้เพื่อตน สิทธิครอบครองยังอยู่แก่เจ้าของทั้งไม่เรียกว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองไม่รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีรวมกับคดีอาญาหมายเลขดำที่ 156/2498 ของศาลชั้นต้นซึ่งอัยการหาว่าใช้ปืนกระบอกของกลางในคดีนี้ยิงนายหาญ บัวพัน แล้วพิพากษายกฟ้องทั้งสองสำนวน ปืนของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะข้อหาเรื่องจำเลยมีอาวุธปืน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายต่อมา
ศาลฎีกาปรึกษาคดีนี้แล้ว ข้อเท็จจริงคงฟังตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วว่าปืนของกลางเป็นของนายอ๋อ ๆ ฝากให้จำเลยถือไว้ชั่วขณะที่นายอ๋อไปซื้อบุหรี่ห่างจากที่จำเลยยืนคอยประมาณ 10 วา
ได้ความดังนี้ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2492 ที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยนั้นบัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดซื้อ ทำมิให้ส่งหรือนำเข้ามาซื้ออาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนคำว่ามีนั้นตามพระราชบัญญัติที่กล่าวนี้ได้ให้คำวิเคราะห์ศัพท์ไว้ใน มาตรา 4(6) ว่า หมายความว่ามีกรรมสิทธิ์หรือมีไว้ในครอบครองการที่จำเลยยึดถือปืนของกลางของผู้อื่นไว้ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในอาวุธปืนนั้น และการยึดถือไว้ให้เจ้าของชั่วขณะที่เจ้าของเข้าไปซื้อบุหรี่ที่ร้านที่อยู่ห่างจากจำเลยยืนคอยเพียง 10 วานั้น ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิครอบครองในปืนนั้น เพราะจำเลยมิได้ยึดถือไว้เพื่อตนเลย สิทธิครอบครองปืนยังอยู่แก่เจ้าของ ฉะนั้นจึงไม่เรียกว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองดังโจทก์หา จำเลยไม่มีความผิดที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา ยกฟ้องโจทก์เป็นการฟ้องแล้ว
จึงพิพากษายืนให้ยกฎีกาโจทก์เสีย