คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องนั้น ข้อที่ว่าจำเลยเสียเปรียบหรือหลงต่อสู้หรือไม่ ย่อมเป็นข้อเท็จจริงเมื่อศาลล่างไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จะฎีกาว่าจำเลยไม่เสียเปรียบหรือไม่หลงต่อสู้ไม่ได้, ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกเคหะสถาน ฐานทำให้เสียทรัพย์และฐานพยายามชิงทรัพย์ โดยกล่าวในฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๔๙๒ เวลากลางคืนหลังเที่ยง
จำเลยปฏิเสธศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยาน ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาต่อมาอีก ๒ วันก่อนวันถึงวันนัดฟังคำพิพากษา โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิด พ.ศ. ๒๔๙๒ นั้นผิดพลาดไป เพราะพิมพ์เลขผิดความจริงเป็น พ.ศ. ๒๔๙+ จึงขอแก้ ศาลอาญาสั่งไม่อนุญาตให้แก้แล้วพิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่าวันเกิดเหตุที่โจทก์สืบต่างกับฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าการแก้ฟ้องนั้นถ้าทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีแล้ว ห้ามมิให้ศาลอนุญาตแต่ข้อที่ว่าจำเลยเสียเปรียบหรือหลงข้อต่อสู้หรือไม่นี้ เป็นข้อเท็จจริงโจทก์ฎีกาไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๒๑๙ จึงให้ยกฎีกาโจทก์ โดยพิพากษายืน

Share