คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2551

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ๆ ซึ่งบุหรี่ซิกาแรตของกลางที่มีผู้ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร แล้วมีไว้ในครอบครองและมีไว้เพื่อขายซึ่งบุหรี่จำนวนเดียวกันอันเป็นยาสูบที่มีน้ำหนักเกินกว่าห้าร้อยกรัมซึ่งมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามกฎหมาย เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ๆ ซึ่งยาสูบที่มีผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ทวิ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด และเมื่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางลงโทษจำเลยตามบทบัญญัติดังกล่าวอันเป็นบทหนักแล้ว ศาลย่อมไม่อาจริบบุหรี่ซิกาแรตของกลางเป็นของกรมสรรพสามิต ตาม พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 44 วรรคสอง ประกอบมาตรา 24 ได้ เพราะศาลไม่ได้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายดังกล่าว แต่เมื่อโจทก์มีคำขอให้ริบตาม ป.อ. มาตรา 33 ด้วย ศาลย่อมริบตามกฎหมายที่ถูกต้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ทวิ พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 4, 19, 24, 49, 50 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 4, 108, 110, 115 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91 พระราชบัญญัติบำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 4, 5, 6, 7, 8, 9 และริบบุหรี่ต่างประเทศของกลางเป็นของกรมสรรพสามิตกับจ่ายเงินรางวัลแก่ผู้แจ้งความนำจับ และแก่เจ้าพนักงานผู้จับ
จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางสั่งให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีใหม่
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ทวิ พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 19, 24, 50 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 110 (1) ประกอบมาตรา 108 การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานช่วยซ่อนเร้นหรือจำหน่ายของที่ยังไม่ได้เสียภาษีหรือยังไม่ได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร ให้ปรับสี่เท่าของราคารวมค่าอากรเป็นเงิน 22,400 บาท ฐานมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบเกินกว่าห้าร้อยกรัม และมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้แสตมป์ยาสูบ ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวให้ลงโทษบทหนักตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 50 ให้ปรับสิบห้าเท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่ต้องปิด เป็นเงิน 186,637.50 บาท และฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมปรับ 15,000 บาท รวมโทษทุกกระทงปรับ 224,037.50 บาท จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 112,018.75 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลางเป็นของกรมสรรพสามิต จ่ายเงินสินบนแก่ผู้แจ้งความนำจับ และจ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 2 ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งบุหรี่ซิกาแรตของกลางที่มีผู้ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร แล้วมีไว้ในครอบครองและมีไว้เพื่อขายซึ่งบุหรี่จำนวนเดียวกันอันเป็นยาสูบที่มีน้ำหนักเกินกว่าห้าร้อยกรัมซึ่งมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามกฎหมาย แม้การกระทำนั้นจะผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายหลายฉบับแต่ก็มุ่งประสงค์ต่อผลอย่างเดียวกันคือการหลีกเลี่ยงที่จะไม่ต้องเสียภาษีอากรตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งยาสูบที่มีผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งยาสูบที่มีผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรกระทงหนึ่ง และฐานมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักกว่าฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ซึ่งเป็นกรรมเดียวกันอีกกระทงหนึ่ง จึงไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ปัญหาดังกล่าวแม้ไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 45 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง
ส่วนที่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ขอให้ลงโทษปรับสถานเบานั้น เห็นว่า ความผิดฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งยาสูบที่มีผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ทวิ บัญญัติอัตราโทษปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว ราคาของรวมค่าอากรของคดีนี้มีจำนวน 5,600 บาท ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจึงต้องลงโทษปรับ 22,400 บาท กรณีไม่อาจลงโทษปรับจำนวนน้อยกว่านี้ได้ ส่วนความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าบุหรี่ซิกาแรตที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าที่แท้จริงของผู้เสียหายที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 100 (1) ประกอบมาตรา 108 กำหนดอัตราโทษจำคุกไม่เกินสี่ปีหรือปรับไม่เกินสี่แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหวางประเทศกลางลงโทษปรับจำนวน 15,000 บาท ก่อนลดโทษจึงเหมาะสมแก่สภาพความผิดแล้ว ไม่มีเหตุที่จะลงโทษปรับน้อยกว่านี้ อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางสั่งจ่ายเงินสินบนแก่ผู้แจ้งความนำจับ และสั่งจ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมายโดยไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่าให้จ่ายจากความผิดฐานใด ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง นอกจากนี้เมื่อศาลลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ทวิ ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 แล้ว ศาลย่อมไม่อาจริบบุหรี่ซิกาแรตของกลางเป็นของกรมสรรพสามิต ตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 44 วรรคสอง ประกอบมาตรา 24 ได้ เพราะศาลไม่ได้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายดังกล่าว เมื่อโจทก์มีคำขอให้ริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ด้วย ศาลย่อมริบตามกฎหมายที่ถูกต้องได้ ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้องเช่นกัน
พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับความผิดฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ฐานมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองเกินกว่าห้าร้อยกรัม และฐานมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานช่วนซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ทวิ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ปรับ 22,400 บาท เมื่อรวมกับโทษฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมแล้ว ปรับ 37,400 บาท ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงปรับ 18,700 บาท ให้จ่ายสินบนแก่ผู้แจ้งความนำจับ และจ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมผู้กระทำผิดจากเงินค่าปรับในความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ทวิ โดยให้จ่ายตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 5 (2), 6, 7, 8 วรรคหนึ่ง ริบของกลางนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง.

Share