แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้ตายได้ทำสัญญาประกันคุ้มครองอุบัติเหตุกับจำเลย โดยในสัญญาดังกล่าวมีข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยว่าจะไม่รับผิดชอบชดใช้ค่าทดแทนใด ๆ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยการถูกฆาตกรรมเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ตายถูกคนร้ายฆ่าตาย โดยเจตนา การตาย ของผู้ตายจึงเกิดจากการฆาตกรรมจำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันจึงไม่ต้องรับผิด.
ย่อยาว
โจทก์ในฐานะผู้รับประโยชน์ฟ้องจำเลยให้ใช้เงินตามกรมธรรม์การประกันคุ้มครองอุบัติเหตุ 2 กรมธรรม์ พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่าการถึงแก่กรรมของผู้ตาย ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นการฆาตกรรมและถูกลอบทำร้ายและแม้จะเป็นอุบัติเหตุจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดเพราะมีข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน 1,000,000 บาท กับดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 ยกฟ้องโจทก์ที่ 1 ให้จำเลยชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาในชั้นฎีกาคงมีเฉพาะสัญญาประกันคุ้มครองอุบัติเหตุ ซึ่งนางชั้งล้ง จูตระกูลคีรี ทำสัญญาประกันคุ้มครองอุบัติเหตุหว้ 2 ฉบับ ฉบับละ 500,000 บาท ดังปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 ตามสัญญาประกันคุ้มครองอุบัติเหตุดังกล่าวมีข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยไว้ว่า บริษัทจะไม่รับผิดชอบชดใช้ค่าทดแทนใด ๆ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพหรือเสียชีวิตด้วยสาเหตุโดยตรงหรือโดยปริยายดังนี้
“…ฯลฯ… การถูกฆาตกรรม และการถูกลอบทำร้ายร่างกาย”
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่า นางชั้งล้งตายเพราะอุบัติเหตุถูกคนร้ายปล้นชิงทรัพย์และทำร้ายด้วยอาวุธปืน จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้ว่านางชั้งล้งถูกฆาตกรรม ดังนั้นข้อที่จะต้องวินิจฉัยมีว่านางชั้งล้งถูกคนร้ายปล้นทรัพย์และทำร้ายด้วยอาวุธปืนถึงแก่ความตาย หรือถูกฆาตกรรม…
ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่านางชั้งลั้งถูกคนร้ายปล้นทรัพย์และถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตาย พฤติการณ์ตามที่ปรากฏในรายงานประจำวันคดีและในใบพิสูจน์มรณกรรมตามเอกสารหมาย จ.6 และ ล.3,ล.4 กลับแสดงว่า นางชั้งลั้งถูกคนร้ายฆ่าตายโดยเจตนา การตายของนางชั้งลั้งจึงเกิดจากการฆาตกรรม จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันจึงไม่ต้องรับผิดตามข้อยกเว้นความรับผิดข้อ 8 การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยรับผิดจึงไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความ 15,000 บาทแทนจำเลย.