แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกา จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ขอให้ศาลใช้ดุลพินิจรอการลงโทษแก่จำเลย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 38)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฯลฯ เรียงกระทงลงโทษกระทงแรกจำคุก 1 ปี กระทงที่สองจำคุก 1 ปี และกระทงที่สามจำคุก4 เดือน รวมเป็นโทษจำคุกจำเลย 2 ปี 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 2 เดือน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับ ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2530(อันดับ 37)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 38)
คำสั่ง
ฎีกาของจำเลยที่ขอให้รอการลงโทษนั้น เป็นดุลพินิจในการกำหนดโทษฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ยกคำร้อง