คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1801/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

น้ำมันและถังรายพิพาทเป็นของราชการทหาร ถูกคนร้ายลักไปโจทก์รับซื้อไว้โดยสุจริตในท้องตลาด แล้วต่อมาจำเลยได้ซื้อและยืมถังไปจากโจทก์และโจทก์ได้มอบให้แก่จำเลยไปแล้ว จำเลยจึงมีสิทธิเหนือน้ำมันที่ตนซื้อจากโจทก์ยิ่งกว่าบุคคลอื่นๆ แม้เจ้าของอันแท้จริงก็จะมาเรียกน้ำมันคืนไปจากจำเลยไม่ได้ เว้นแต่จะชดใช้ราคาที่จำเลยซื้อมา จำเลยต้องชำระราคาน้ำมันและถังให้แก่โจทก์ ไม่ใช่เรื่องรอนสิทธิ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2501)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกค่าน้ำมันเบ็นซินจากจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 3,600 บาท กับค่าถังน้ำมันที่จำเลยที่ 1 ยืมไป 1,800 บาท โดยจำเลยจ่ายเช็คให้แล้วต่อมาสั่งงดจ่าย

จำเลยต่อสู้ว่าได้ซื้อน้ำมันและยืมถังไปจริง แต่หลังจากนั้นตำรวจได้อายัดและยึดน้ำมันไปอ้างว่าเป็นของทางราชการถูกคนร้ายลักไป โจทก์จึงไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ ไม่มีสิทธิฟ้อง

คู่ความตกลงรับข้อเท็จจริงบางประการแล้วทั้ง 2 ฝ่ายไม่สืบพยาน ขอให้ศาลตัดสินได้เลย ข้อเท็จจริงที่รับกันคือ

โจทก์ยอมรับว่าโจทก์ได้ซื้อน้ำมันรายพิพาทจากร้านเทพอำนวยการซึ่งเป็นร้านค้าน้ำมัน โดยนายอำพน จิตเสนี เป็นผู้จัดการได้สมคบกับคนร้ายยักยอกเอาน้ำมันรายพิพาทจากกรมเชื้อเพลิงมาขายให้โจทก์การที่ผู้จัดการร้านเทพอำนวยสมคบกับคนร้ายรายนี้ โจทก์เพิ่งทราบภายหลังได้ทำการซื้อขายน้ำมันรายนี้แล้วโจทก์รับซื้อน้ำมันจากโจทก์โดยสุจริตในท้องตลาด โดยทั้งโจทก์จำเลยเป็นพ่อค้าน้ำมันด้วยกันจำเลยให้ยืมถังน้ำมันจากโจทก์ไป 20 ใบ โจทก์ตีราคาใบละ 90 บาท

ศาลแพ่งฟังว่าการซื้อขายไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 เป็นส่วนตัว จึงพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าน้ำมันให้โจทก์ 3,600 บาท กับถัง 20ใบ ถ้าคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา 1,800 บาท ให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 2 และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า จำเลยที่ 1 ได้ซื้อน้ำมันรายนี้จากโจทก์เสร็จเด็ดขาดแล้ว ทั้งโจทก์ก็ได้มอบน้ำมันให้แก่จำเลยที่ 1 แล้ว จำเลยที่ 1 จึงมีสิทธิเหนือน้ำมันที่ตนซื้อจากโจทก์ยิ่งกว่าบุคคลอื่น ๆ แม้เจ้าของอันแท้จริงก็จะมาเรียกน้ำมันนั้นคืนไปจากจำเลยที่ 1 ไม่ได้ เว้นแต่จะชดใช้ราคาที่จำเลยที่ 1 ซื้อมาโจทก์จำเลยจึงต่างมีสิทธิและหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย จำเลยที่ 1 ต้องใช้ราคาน้ำมันและถังที่ยืมไป

จำเลยมิได้ยกเรื่องรอนสิทธิขึ้นต่อสู้ ทั้งเรื่องนี้ก็มิใช่กรณีที่บุคคลอื่นมีสิทธิเหนือน้ำมันนั้นดีกว่าจำเลย ดังได้วินิจฉัยมาข้างต้นข้ออ้างเรื่องรอนสิทธิจึงตกไป การที่จำเลยที่ 1 จะใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยอย่างใดจากกรมตำรวจหรือเจ้าของอันแท้จริงที่เอาน้ำมันและถังไปจากจำเลยนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องดำเนินการอีกส่วนหนึ่งไม่เกี่ยวกับคดีนี้

พิพากษายืน

Share