แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยได้ร่วมมากับพวกของจำเลย รวม 3 คน เข้าชก ต่อย เตะ ผู้เสียหายและผู้ตาย แล้วต่างเลิกรากันไปตอนหนึ่งจนผู้เสียหายกับผู้ตายเดินพ้นจากที่เดิมไปแล้ว 100 เมตรจำเลยกับพวกชุดเดิมก็ย้อนกลับมาทำร้ายผู้เสียหายกับผู้ตายซ้ำอีกโดยพวกของจำเลยคนหนึ่งเป็นคนแทงผู้ตาย แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีข้ามถนนไปด้วยกัน พฤติการณ์ของจำเลยกับพวก ดังนี้น่าเชื่อว่าจำเลยรู้อยู่ว่าพวกของจำเลยคนที่แทงผู้ตายมีมีดปลายแหลมเป็นอาวุธติดตัวอยู่ ได้ปรึกษาหารือกันมาก่อนแล้วจึงได้หวนกลับมาทำร้ายเป็นครั้งที่สอง ดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้เป็นคนแทงทำร้ายผู้ตายจำเลยก็ต้องรับผิดฐานเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2510 เวลากลางวัน จำเลยกับนายสมชาย แซ่ลี้ และพวกอีกหนึ่งคน ได้บังอาจร่วมกันใช้มือชกต่อยนายพิพัธน์หรือพิพัฒน์ จารุมนตรี และ นายธวัชชัย คงสุวรรณ แล้วจำเลยกับพวกยังได้ร่วมกันใช้มีดแทงนายธวัชชัยโดยเจตนาฆ่านายธวัชชัยถึงแก่ความตายในวันนั้นเอง เหตุเกิดที่ตำบลสุริวงศ์ อำเภอบางรัก จังหวัดพระนคร ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 จำเลยอายุ 19 ปี เห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษตามมาตรา 75 กึ่งหนึ่งแล้วจำคุก 7 ปี 6 เดือน คำรับชั้นสอบสวนและชั้นศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาปรานีลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามมาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยมีเจตนาชกต่อยผู้ตายและพวกเท่านั้นไม่มีเจตนาฆ่าจำเลยมิได้ร้องขอให้นายธานีหรืออี๊ดแทงผู้ตาย ไม่ปรากฏว่าจำเลยรู้ว่านายอี๊ดหรือธานีซ่อนมีดปลายแหลมไว้ในสมุดพกเป็นเรื่องต่างคนต่างทำ จำเลยไม่มีผิดฐานฆ่าผู้ตาย พิพากษาแก้เป็นจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 จำคุก 1 เดือน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เหตุเกิดป็นสองตอน ตอนแรกจำเลยเป็นคนเข้ามาเตะนายพิพัธน์ก่อน พวกของจำเลยคนหนึ่งคือนายสมชายเข้าชกผู้ตายแล้วก็เลิกกันไป โดยต่างฝ่ายต่างเดินไปคนละทางนายพิพัธน์และผู้ตายเดินต่อไปได้ราว 100 เมตร จำเลยกับพวกชุดเดิมก็วิ่งกลับมาชกต่อยนายพิพัธน์และผู้ตายอีก คราวนี้พวกของจำเลยคือนายธานีหรืออี๊ดซึ่งยืนดูอยู่เฉย ๆ ในตอนแรกเป็นผู้เข้ามาแทงผู้ตาย ปัญหาว่า จำเลยจะมีความผิดฐานร่วมกับนายธานีหรืออี๊ดทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตายหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยได้ร่วมมากับนายธานีหรืออี๊ดแต่แรก เมื่อชกต่อยนายพิพัธน์และนายธวัชชัยผู้ตายแล้วต่างก็เลิกรากันไป จนนายพิพัธน์และนายธวัชชัยเดินพ้นจากที่เดิมไปแล้วถึง 100 เมตร จำเลยกับพวกจึงย้อนกลับมาทำร้ายนายพิพัธน์และนายธวัชชัยซ้ำอีก เมื่อนายธานีหรืออี๊ดแทงนายธวัชชัยผู้ตายแล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีข้ามถนนไปด้วยกัน พฤติการณ์ของจำเลยกับพวกดังนี้น่าเชื่อว่า จำเลยรู้อยู่ว่านายธานีหรืออี๊ดมีมีดปลายแหลมเป็นอาวุธติดตัวอยู่คงจะได้ปรึกษาหารือกันก่อน จึงได้หวนกลับมาอีกเป็นครั้งที่สองนายธานีหรืออี๊ดยืนคุมเชิงอยู่พอเกิดต่อสู้กันนายธานีหรืออี๊ดก็เข้าแทงนายธวัชชัยผู้ตาย จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น