คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1800/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ล. ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ซึ่งถึงแก่กรรมหลังจากศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษา ต่อมาจำเลยอุทธรณ์และศาลแรงงานกลางมีคำสั่งรับอุทธรณ์นั้นแล้ว คดีจึงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา การที่ศาลแรงงานกลางสั่งอนุญาตให้ ล.เข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์หลังจากนั้นจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาต้องยกคำสั่งดังกล่าว แต่เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า ล.เป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของโจทก์และโจทก์ถึงแก่กรรมจริง ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ ล. เข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยจำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย และจำเลยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์ขอให้ยกฟ้อง ศาลแรงงานพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ปรากฏในวันที่ 1 มีนาคม2531 หลังจากศาลแรงงานกลางอ่านคำพิพากษาคดีนี้ นางลัดดาศุภธรรมกิจ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ ยื่นคำร้องว่าโจทก์ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2531 ขอให้ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้นางลัดดาเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ วันที่ 15 มีนาคม 2531จำเลยยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลแรงงานกลางต่อศาลฎีกา และศาลแรงงานกลางมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยในวันเดียวกัน คดีจึงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ศาลแรงงานกลางไม่มีอำนาจสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้นางลัดดาเข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะได้ ดังนั้น การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 16มีนาคม 2531 อนุญาตให้นางลัดดาเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะจึงไม่ชอบ จึงให้ยกคำสั่งของศาลแรงงานกลางที่อนุญาตให้นางลัดดาเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะ และเมื่อปรากฏว่าศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องการขอเข้าเป็นคู่ความแทนนี้ ว่านางลัดดาเป็นภรรยาชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ โจทก์เป็นลมถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2531 ไม่มีผู้ใดคัดค้านการที่นางลัดดาเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะ ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานจึงมีคำสั่งอนุญาตให้นางลัดดา ศุภธรรมกิจ เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะ”ส่วนในประเด็นเรื่องค่าชดเชยกับดอกเบี้ย วินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share