คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้หนี้ตามคำพิพากษาจะเป็นหนี้ค่าทดแทนซึ่งตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ข้อ 62 จะกำหนดว่าเงินทดแทนไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีก็ตาม ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ค่าภาษีอากร ย่อมมีสิทธิที่จะขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องจากศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนและค่าทำศพให้โจทก์ทั้งสองเป็นเงินจำนวนหนึ่ง จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลย

ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรียื่นคำร้องว่า จำเลยเป็นหนี้ค้างชำระค่าภาษีอากรเป็นเงิน 331,960 บาท 56 สตางค์ ขอเฉลี่ยทรัพย์ที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลย

โจทก์แถลงคัดค้าน

ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องขอเฉลี่ยได้ตามคำร้อง

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้เงินค่าภาษีอากร ผู้ร้องไม่สามารถเอาชำระได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของจำเลย ผู้ร้องย่อมขอเฉลี่ยทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 การที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางให้แก่โจทก์ แม้หนี้ตามคำพิพากษาเป็นหนี้ค่าทดแทน ซึ่งตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 62 กำหนดว่า “เงินทดแทนไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี” แต่ในกรณีนี้เป็นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของจำเลย เพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์มิใช่การบังคับคดีแก่เงินทดแทน จึงไม่ต้องห้ามตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว

Share