คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ทั้งสองฟ้องว่าจำเลยไม่มีสิทธิหักเงินโบนัส จำเลยให้การว่าจำเลยมีสิทธิหักเงินโบนัสของโจทก์ทั้งสองตามมติคณะรัฐมนตรีประเด็นข้อพิพาทมีว่าจำเลยมีสิทธิหักเงินโบนัสของโจทก์ทั้งสองหรือไม่ ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยมีสิทธิหักเงินโบนัสของโจทก์ทั้งสองตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยข้อ 4.1.1 หาเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นไม่ ตลอดระยะเวลาที่จำเลยอนุมัติให้โจทก์ทั้งสองลาไปประชุมสัมมนาฝึกอบรม ซึ่งไม่เกี่ยวกับกิจการของจำเลย ณ ต่างประเทศโดยไม่ถือเป็นวันลานั้น โจทก์ทั้งสองหาได้อยู่ปฏิบัติงานจริง ๆไม่ โจทก์ทั้งสองจึงเป็นพนักงานที่ปฏิบัติไม่เต็มงวดการปิดบัญชีของธนาคารที่มีการจ่ายเงินโบนัส ชอบที่จะได้รับเงินโบนัสตามส่วนแห่งระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นลูกจ้างจำเลยในตำแหน่งพนักงานอำนวยสินเชื่อโจทก์ที่ 1 ได้รับค่าจ้างเดือนละ 8,760 บาทโจทก์ที่ 2 ได้รับค่าจ้างเดือนละ 7,230 บาท และจำเลยสัญญาว่าจะให้โบนัสอีกปีละไม่ต่ำกว่าเงินเดือน 4 เดือน เมื่อเดือนสิงหาคม2531 โจทก์ที่ 1 ในฐานะกรรมการสหภาพแรงงานของธนาคารกรุงไทยจำกัด ได้รับการคัดเลือกจากสภาองค์การลูกจ้างโดยผ่านสหภาพแรงงานธนาคารกรุงไทยให้ไปร่วมประชุมสัมมนาของสถาบันแอฟโร่เอเซียอินสติติ้ว ที่ประเทศอิสราเอล มีกำหนดระยะเวลา 3 เดือน และเมื่อเดือนตุลาคม 2531 โจทก์ที่ 2 ในฐานะกรรมการสหภาพแรงงานของธนาคารกรุงไทย จำกัด ได้รับการคัดเลือกจากสภาองค์การลูกจ้างโดยผ่านสหภาพแรงงานธนาคารกรุงไทยให้ไปร่วมประชุมสัมมนาของสถาบันไอ ซี เอฟ ที ยู ที่ประเทศอินเดียมีกำหนดระยะเวลา 45 วัน ซึ่งในการไปร่วมประชุมสัมมนาของโจทก์ทั้งสองดังกล่าวไม่เกี่ยวกับกิจการของธนาคาร โดยสหภาพแรงงานได้ขออนุมัติจากจำเลยตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีต่อกัน จำเลยได้อนุมัติให้โจทก์ทั้งสองในฐานะกรรมการสหภาพแรงงานลาไปร่วมประชุมสัมมนาได้โดยไม่ถือเป็นวันลา หลังจากโจทก์ทั้งสองเดินทางกลับจากต่างประเทศแล้วต่อมาในงวดการจ่ายเงินโบนัสเดือนธันวาคม 2531 จำเลยไม่ได้นำเอาระยะเวลาที่โจทก์ทั้งสองไปประชุมสัมมนามาคิดคำนวณเงินโบนัสให้แก่โจทก์ทั้งสอง โดยจำเลยได้หักเงินโบนัสของโจทก์ที่ 1เป็นจำนวน 5,731.64 บาท และหักเงินโบนัสของโจทก์ที่ 2 เป็นจำนวน3,081.53 บาท ซึ่งจำเลยไม่มีสิทธิจะหักเงินโบนัส จำนวนดังกล่าวของโจทก์ทั้งสองได้ เพราะการไปร่วมประชุมสัมมนาที่ต่างประเทศของโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานนั้นไม่ใช่เป็นกรณีที่ได้รับทุนการศึกษาหรือฝึกอบรมในฐานะพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งอาจต้องหักเงินโบนัส โจทก์ทั้งสองทวงถามแล้ว จำเลยเพิกเฉย จำเลยต้องรับผิดคืนเงินโบนัสพร้อมด้วยดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2
จำเลยให้การว่า โจทก์ทั้งสองได้รับอนุมัติจากจำเลยให้ไปร่วมฝึกอบรมในต่างประเทศในฐานะกรรมการสหภาพแรงงานของจำเลย โดยให้ลาได้โดยไม่ถือเป็นวันลา การที่จำเลยหักเงินโบนัสตามระยะเวลาที่โจทก์ทั้งสองไม่ได้อยู่ปฏิบัติงานเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งกระทรวงการคลังและให้จำเลยถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม2529 ซึ่งระบุว่า การจ่ายเงินโบนัสสำหรับพนักงานรัฐวิสาหกิจผู้ได้รับทุนให้จ่ายตามระยะเวลาที่ผู้รับทุนได้ปฏิบัติงานอยู่จริงโดยไม่นำเวลาระหว่างที่ไปศึกษาฝึกอบรม ฯลฯ มาคำนวณโบนัส ปรากฏตามสำเนาหนังสือกระทรวงการคลังที่ กค.0201/56156 ลงวันที่ 4พฤศจิกายน 2529 และที่ กค.0512/49419 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2529ท้ายคำให้การ จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้เงินให้แก่โจทก์ทั้งสองตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยเอกสารหมาย จล.1 หมวด 4เงินโบนัส ข้อ 4.1 ระบุว่า ให้จ่ายเงินโบนัสให้แก่พนักงานตามงวดปิดบัญชี 6 เดือนของธนาคารแต่ละงวดงวดละเท่ากับเงินเดือน 2 เดือนรวมปีละ 2 งวด เท่ากับ 4 เดือน ให้ตั้งจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายก่อนวันปิดงวดบัญชีของแต่ละงวดโดยให้ถือหลักเกณฑ์การจ่าย ดังนี้
4.1.1 พนักงานที่ปฏิบัติงานไม่เต็มงวดการปิดบัญชีของธนาคารที่มีการจ่ายเงินโบนัสให้รับเงินโบนัสตามส่วนแห่งระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติ นอกจากพนักงานที่เข้าข่ายใน 4.1.2
4.1.2 พนักงานที่ออกจากธนาคารไปก่อนวันจ่ายเงินโบนัส เนื่องจากธนาคารให้ออกฐานมีความผิดไม่ว่าในกรณีใด ๆ หรือพนักงานที่ถูกสั่งพักงานเพราะมีความผิดหรือพนักงานที่มีความผิด บกพร่องต่อหน้าที่ประพฤติผิดวินัย ซึ่งมีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงินโบนัส ไม่มีสิทธิได้รับเงินโบนัส ศาลฎีกาเห็นว่า ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยในข้อดังกล่าวใช้บังคับแก่พนักงานทุกคนโดยมิได้มีข้อยกเว้นสำหรับพนักงานที่เป็นสมาชิกหรือกรรมการของสหภาพแรงงาน โจทก์ทั้งสองเป็นพนักงานของจำเลย แม้โจทก์ทั้งสองจะเป็นสมาชิกและกรรมการของสหภาพแรงงานและจำเลยจะได้อนุมัติให้โจทก์ทั้งสองลาไปประชุมสัมมนาฝึกอบรม ณ ต่างประเทศโดยไม่ถือเป็นวันลา แต่การที่โจทก์ทั้งสองไปร่วมประชุมสัมมนาและฝึกอบรมนั้นไม่เกี่ยวกับกิจการของจำเลย และตลอดระยะเวลาที่โจทก์ทั้งสองไปร่วมประชุมสัมมนาและฝึกอบรม โจทก์ทั้งสองก็หาได้อยู่ปฏิบัติงานจริง ๆ ไม่ โจทก์ทั้งสองจึงเป็นพนักงานที่ปฏิบัติงานไม่เต็มงวดการปิดบัญชีของธนาคารที่มีการจ่ายเงินโบนัส โจทก์ทั้งสองชอบที่จะได้รับเงินโบนัสตามส่วนแห่งระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย ข้อ 4.1.1 ซึ่งจำเลยมีสิทธิหักเงินโบนัสของโจทก์ทั้งสองได้ตามฟ้องที่โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ว่าที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยมีสิทธิหักเงินโบนัสของโจทก์ทั้งสองตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย ข้อ 4.1.1 เป็นการวินิจฉัยนอกคำให้การต่อสู้ของจำเลยที่ว่าจำเลยมีสิทธิหักเงินโบนัสของโจทก์ทั้งสองตามมติคณะรัฐมนตรี เอกสารหมาย จล.2 นั้น เห็นว่าตามคำให้การของจำเลยเป็นการปฏิเสธฟ้องของโจทก์ว่าโจทก์ทั้งสองไม่มีสิทธิได้รับเงินโบนัสในส่วนที่จำเลยหักไว้ คดีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิหักเงินโบนัสของโจทก์ทั้งสองหรือไม่ ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยมีสิทธิหักเงินโบนัสของโจทก์ทั้งสองตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยเอกสารหมาย จล.1 ข้อ 4.1.1 เป็นการวินิจฉัยในประเด็นข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจากข้อต่อสู้ของจำเลย ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้วอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share