คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน สืบพยานโจทก์เสร็จ 1 ปากแล้วจะขอสืบพยานอื่นที่ไม่ได้อ้างไว้ในบัญชีระบุพยานโดยยื่นคำแถลงขออ้างพยานเพิ่มเติมและศาลอนุญาต การระบุอ้างพยานเพิ่มเติมจึงชอบด้วยกฎหมาย
ปัญหาว่าโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าให้จำเลยทราบล่วงหน้าก่อนฟ้องหรือไม่เป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่มิได้มีหลักฐานการเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะให้จำเลยต้องรับผิด โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระจากจำเลยไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 18ตำบลหัวเวียง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง พร้อมตึกแถวเมื่อ พ.ศ. 2518 จำเลยเช่าตึกแถวเลขที่ 175 ในที่ดินของโจทก์โดยไม่มีสัญญาเช่า ค่าเช่าเดือนละ 600 บาท ต่อมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2521 จำเลยไม่ชำระค่าเช่า โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกจากตึกแถว จำเลยเพิกเฉย อันเป็นการละเมิด โจทก์เสียหายถึงวันฟ้องเป็นเงิน 4,800 บาท และจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายวันละ 100 บาท ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกจากตึกแถวของโจทก์ ให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้าง 4,800 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จและค่าเสียหายวันละ 100 บาท ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะย้ายออกไปจากตึกแถวของโจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยเช่าตึกแถวพิพาทแต่มิได้ผิดสัญญาได้ปฏิบัติหน้าที่ตามประเพณีการเช่าด้วยดีตลอดมา หากมีการผิดนัดก็มิได้เกิดจากจำเลย โจทก์จงใจก่อให้เกิดขึ้น จำเลยมีสิทธิอยู่ในห้องเช่าไม่เป็นการละเมิด โจทก์เรียกค่าเสียหายเกินความจริงและใช้สิทธิไม่สุจริต โจทก์มิได้บอกเลิกสัญญาให้จำเลยทราบล่วงหน้าตามกฎหมาย ไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากตึกแถวพิพาทให้ชำระค่าเช่าที่ค้าง 4,800 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จำเลยชำระค่าเสียหายวันละ 20 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากตึกแถวพิพาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะคำขอให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างชำระจำนวน 4,800 บาทนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาเรื่องศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ระบุอ้างนางเพ็ญจันทร์เป็นพยานเพิ่มเติมนั้น คดีนี้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน เมื่อสืบนายเพิ่มทรัพย์แล้ว โจทก์จะขอสืบนางเพ็ญจันทร์ปรากฏว่าโจทก์มิได้อ้างไว้ในบัญชีระบุพยาน โจทก์ก็ได้ยื่นคำแถลงขออ้างพยานเพิ่มเติม ศาลชั้นต้นอนุญาต การระบุอ้างพยานเพิ่มเติมของโจทก์ชอบด้วยกฎหมาย

ปัญหาที่ว่าโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าให้จำเลยทราบล่วงหน้าก่อนฟ้องหรือไม่นั้นเป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ปัญหาเรื่องโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระ 4,800 บาทหรือไม่นั้น เห็นว่าการเช่าระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์แต่ไม่มีหลักฐานสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะให้จำเลยต้องรับผิด การฟ้องเรียกค่าเช่าต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 ดังนั้น โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระจากจำเลย

พิพากษายืน

Share