คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1791/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เรียกดอกเบี้ยเงินกู้และจำนองจากจำเลยเกินอัตราร้อยละ 15 ต่อปีที่กฎหมายกำหนดไว้ในข้อกำหนดอัตราดอกเบี้ยจึงตกเป็นโมฆะ โจทก์หมดสิทธิเรียกดอกเบี้ยตามสัญญา แต่มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยโดยเหตุผิดนัดชำระต้นเงินในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากจำเลยเป็นการประกันเงินกู้ที่จำเลยกู้ไปจากโจทก์จำนวน ๓๕๐,๐๐๐ บาท กำหนดชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๒๕ ต่อเดือน ชำระดอกเบี้ยเดือนละครั้ง ครบกำหนดจำเลยไม่ไถ่ถอนจำนองคิดดอกเบี้ยที่จำเลยค้างชำระแก่โจทก์ถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๑๖๔,๗๙๒ บาท ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๕๑๔,๗๙๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปีในต้นเงิน ๓๕๐,๐๐๐ บาท จนกว่าจะชำระเสร็จ หากไม่ชำระให้บังคับจำนองโดยนำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า สัญญาจำนองไม่สมบูรณ์เป็นโมฆะ เพราะจำเลยไม่ได้รับเงินจากโจทก์ตามสัญญา โจทก์คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละสิบห้าต่อปีซึ่งเกินกฎหมาย ดอกเบี้ยจึงตกเป็นโมฆะ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๓๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ หากไม่ชำระให้โจทก์บังคับจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาด สำหรับดอกเบี้ยที่โจทก์ขอมาถึงวันฟ้องเป็นโมฆะให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปีในต้นเงิน ๓๕๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ ซึ่งเป็นวันผิดนัดจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า โจทก์เรียกเก็บดอกเบี้ยจากจำเลยไว้เกินอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปีที่กฎหมายกำหนดไว้ ดอกเบี้ยจึงเป็นโมฆะ มีผลให้โจทก์หมดสิทธิที่จะเรียกเอาดอกเบี้ยตามสัญญา แต่การกู้ยืมและจำนองรายนี้ปรากฏว่าครบกำหนดไถ่ถอนจำนองวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๒๔ จำเลยไม่ชำระต้นเงินและไถ่ถอนจำนอง จำเลยตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ต้นเงิน จำเลยจึงต้องมีหน้าที่ชำระดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๒๔ ซึ่งจำเลยผิดนัดในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๒๔ ให้แก่โจทก์
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน ๓๕๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๒๔ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลเห็นสมควรให้เป็นพับ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share