คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อจำเลยทราบวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบตาม ป.วิ.พ. มาตรา 183ที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งให้ถือว่าคู่ความที่ไม่มาศาลในวันนัดชี้สองสถานได้ทราบกระบวนพิจารณาของศาลในวันนั้นแล้ว ศาลหาจำต้องหมายแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทราบอีกไม่ ข้ออ้างของจำเลยที่ว่า ทนายความคนเดิมพิมพ์หมายเลขคดีดำเกี่ยวกับวันนัดชี้สองสถานผิดพลาดจึงมาศาลตามนัดในคดีหมายเลขดำที่ผิดพลาดดังกล่าวนั้น เมื่อปรากฏว่าทนายจำเลยคนเดิมได้เซ็น ทราบวันนัดชี้สองสถานไว้ในคำให้การในสำนวนแล้วจึงเป็นเรื่องที่จำเลยไม่เอาใจใส่ต่อคดีของตนเอง จะถือว่าจำเลยไม่จงใจขาดนัดพิจารณาอันจะรับฟังเป็นเหตุให้มีการพิจารณาใหม่หาได้ไม่ คำร้องขอพิจารณาใหม่ กล่าวเพียงว่าจำเลยมีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง มิได้กล่าวอ้างเหตุให้ชัดแจ้งว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องอย่างไร หากมีการพิจารณาใหม่จำเลยจะชนะคดีได้อย่างไร เป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 208.

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้ชำระหนี้เงินกู้พร้อมทั้งดอกเบี้ยจำเลยทั้งสองยื่นคำให้การสู้คดี แต่ในวันนัดสืบพยานโจทก์ผู้มีหน้าที่นำสืบก่อนฝ่ายจำเลยไม่มีผู้ใดมาศาลโดยไม่มีการขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณา สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาในวันเดียวกัน ให้จำเลยทั้งสองชำระต้นเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอพิจารณาใหม่ อ้างเหตุว่าไม่จงใจขาดนัด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…กรณีนี้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทราบวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 183 ที่แก้ไขแล้ว ที่จำเลยยื่นคำร้องเกี่ยวกับเรื่องนี้อ้างเหตุว่า ศาลจะต้องหมายนัดแจ้งวันสืบพยานโจทก์ให้ทราบนั้นฟังไม่ขึ้นเพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา 183 ที่แก้ไขแล้วตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ซึ่งให้ถือว่าจำเลยได้ทราบกระบวนพิจารณาของศาลในวันนั้นแล้ว ที่จำเลยอ้างว่าทนายความคนเดิมพิมพ์หมายเลขคดีเกี่ยวกับวันกำหนดนัดชี้สองสถาน โดยพิมพ์เป็นหมายเลขคดีดำที่ 16659/2527 ซึ่งผิดพลาด และได้มาศาลตามนัดในคดีหมายเลขดำดังกล่าว แต่ไม่มีการนัดในบัญชีนัดตามหมายเลยคดีนี้นั้น ได้ความว่าทนายความจำเลยคนเดิมได้เซ็นทราบวันนัดชี้สองสถานไว้ในคำให้การตามเอกสารอันดับ 7/2 ในสำนวนแล้วกรณีเป็นเรื่องที่ฝ่ายจำเลยไม่เอาใจใส่ต่อคดีของตนเอง เหตุอ้างของจำเลยที่ว่า ไม่จงใจขาดนัดพิจารณานั้น ตามคำร้องไม่มีเหตุสมควรเชื่อว่า จำเลยขาดนัดมาศาลไม่ได้อันจะรับฟังเป็นเหตุให้มีการพิจารณาใหม่ได้ อีกประการหนึ่งตามคำร้องขอพิจารณาใหม่ ก็กล่าวเพียงว่าจำเลยมีหลักฐานที่จะพิสูนจ์ว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง มิได้กล่าวอ้างเหตุให้ชัดแจ้งว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องอย่างไร หากมีการพิจารณาใหม่ จำเลยจะชนะคดีได้อย่างไร จึงเป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 อีกด้วย จากเหตุผลดังวินิจฉัยมา เห็นว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ”.

Share