แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การตีความสัญญาแบ่งปันมรดก ที่ผู้จัดการมรดกทำไว้ให้กับทายาท
ย่อยาว
ได้ความว่าโจทก์จำเลยเป็นบุตรนายอานาลานารามัน เจ๊ะดี ๆ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๔๘๘ ศาลจังหวัดภูเก็ตมีคำสั่งลงวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๔๙๑ แต่งตั้งจำเลยและนายรามาสามี พี่ชายอีกคนหนึ่งเป็นผุ้จัดการทรัพย์มรดกของผู้ตาย ต่อมาโจทก์จำเลยและนายรามาสามีได้ทำหนังสือสัญญาลงวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๔๙๑ แบ่งปันทรัพย์มรดกของผู้ตาย มีข้อความหลายประการมีข้อสัญญาอยู่ประการหนึ่งว่าจำเลยจะต้องจ่ายเงินให้โจทก์ ๒๕,๐๐๙ บาท ๓๐ สตางค์ (เพราะจำเลยได้รับทรัพย์มรดกส่วนอื่นมากกว่าโจทก์) และในวันเดียวกันนั้น จำเลยทำหนังสือรับรองว่าจะจ่ายเงินรายนี้พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ ๒๕ สตางค์ ให้ทันทีที่โจทก์ต้องการ
บัดนี้โจทก์อ้างว่าได้ทวงถามให้จำเลยชำระหนี้รายนี้หลายครั้ง จำเลยก็เพิกเฉยเสียจึงให้บังคับจำเลยชำระเงินรายนี้ให้โจทก์กับดอกเบี้ย
จำเลยต่อสู้หลายประการ และว่าในสัญญาระบุไว้ด้วยว่าโจทก์ต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้นางมีนาจิ แล้วให้นางมีนาจิทำหนังสือรับรองไม่เกี่ยวข้องกับมรดกต่อไปแต่จนบัดนี้โจทก์มิได้จ่ายเงินให้นางมีนาจิ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาได้ตรวจสัญญาที่กล่าวแล้ว เห็นว่าตามสัญญาข้อ ๓ นั้นจำเลยสัญญาจะจ่ายเงินให้โจทก์โดยเด็ดขาดปราศจากเงื่อนไขใด ๆ ส่วนความตามสัญญาข้อ ๔ ที่กำหนดให้โจทก์จ่ายเงินส่วนได้ของนางมีนาจิให้แก่นางมีนาจิ และให้นางมีนาจิรับรองจะไม่เกียวข้องกับมรดกต่อไปนั้น หาเกี่ยวกับการที่จำเลยจะต้องชำระหนี้ให้โจทก์ตามสัญญาข้อ ๓ ไม่และที่จำเลยต่อสู้ว่าคดีขาดอายุความ ก็ฟังไม่ได้ เพราะโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยทำสัญญาประณีประนอมให้โจทก์ไว้
จึงพิพากษายืน