คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปืนของกลางเป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2500เมื่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ฉบับที่3 พ.ศ.2501 ออกใช้และรัฐมนตรีได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ปืนชนิดนี้เป็นที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามแล้วเจ้าของก็มิได้นำไปมอบให้กับนายทะเบียนท้องที่ตามมาตรา10 ปืนนี้จึงเป็นของมีไว้เป็นความผิดอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32. จำเลยรับฝากปืนนี้ไว้จากเจ้าของก็ต้องมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ลงโทษปรับจำเลยตามศาลชั้นต้นจำเลยฎีกาว่าปืนของกลางไม่ใช่ปืนเล็กยาวแบบ 83 ซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน เป็นการโต้เถียงคำวินิจฉัยและดุลพินิจของศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนเล็กยาวแบบ 83 ขนาด 7.62 ซึ่งเป็นอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามกฎกระทรวงไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีกระสุนปืน 13 นัดไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490มาตรา 7, 72, 55, 78 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2501 มาตรา 5, 8 กฎกระทรวงฉบับที่ 7 พ.ศ. 2501 ข้อ 3 ข. และขอให้ริบของกลาง

จำเลยให้การว่า ปืนเป็นของนายนาวินซึ่งมีใบอนุญาตเอามาทิ้งไว้บ้านจำเลย

ศาลชั้นต้นฟังว่าปืนและกระสุนปืนของกลางจำเลยรับฝากไว้จากนายนาวิน ปืนนี้เป็นปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม แต่จำเลยไม่ทราบว่าเป็นปืนชนิดนี้ จึงไม่ต้องรับผิดหนักขึ้น พิพากษาปรับจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 กฎกระทรวงฉบับที่ 7 พ.ศ. 2501 ข้อ 3 ช. ปืนกระสุนปืนให้ริบ

จำเลยอุทธรณ์ฝ่ายเดียว

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาว่า ปืนของกลางเป็นปืนเมาเซอร์ไรเฟิลของนายนาวินมีใบอนุญาต จึงเป็นปืนที่ชอบด้วยกฎหมาย หาใช่เป็นปืนเล็กยาวแบบ 83ซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนและที่นายนาวินเอาปืนฝากไว้โดยจะมาเอาในวันรุ่งขึ้นไม่ถือว่าจำเลยเป็นผู้มีอาวุธปืน

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่ว่าการที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าปืนของกลางเป็นปืนเล็กยาวแบบ 83 เป็นการวินิจฉัยผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนนั้น เป็นการโต้เถียงคำวินิจฉัยและดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

นายนาวินได้รับอนุญาตให้มีปืนนี้เมื่อ พ.ศ. 2500 ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มิได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าอย่างใดเรียกว่าอาวุธปืนที่ใช้แต่เฉพาะในการสงคราม ต่อมามีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2501 บัญญัติให้รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดว่าอย่างใดเป็นอาวุธปืนที่ใช้แต่เฉพาะในการสงคราม รัฐมนตรีก็ได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่ 7 พ.ศ. 2501 ข้อ (3)ช. ได้กำหนดว่า ปืนเล็กยาวแบบ 83 ขนาด 6.5 ม.ม. เป็นปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามปืนของกลางฟังได้ว่าเป็นปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามจริงพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ฉบับที่ 3พ.ศ. 2501 มาตรา 10 บัญญัติว่าถ้าผู้มีอาวุธปืนดังกล่าวนำไปมอบให้กับนายทะเบียนท้องที่ภายใน90 วัน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ ฉะนั้น ปืนนี้จะต้องนำไปมอบตามพระราชบัญญัติดังกล่าว เมื่อเจ้าของมิได้นำไปมอบปืนนี้ก็เป็นของมีไว้เป็นความผิดอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 จำเลยรับฝากไว้ไม่ว่าจะเป็นเวลานานสักเท่าใด ต้องฟังว่ามีไว้ในครอบครองแล้ว ที่ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำเลยและริบของกลางนั้นชอบแล้ว พิพากษายืน

Share