คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เลตเตอร์ออฟเครดิตที่ธนาคารได้เปิดเพื่อชำระราคาสินค้าของลูกค้าของธนาคารนั้นย่อมถือว่าเป็นคำเสนอ เมื่อได้มีการส่งสินค้ามาตามที่ระบุไว้ในเลตเตอร์ออฟเครดิตแล้วก็ย่อมถือได้ว่ามีคำสนองก่อให้เกิดสัญญาขึ้น

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ได้ถอนฟ้องจำเลยที่ 3 คงฟ้องจำเลยที่ 1, 2 เป็นใจความว่า จำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญากับบริษัทเฟรนซ์คอมเมอร์เชียลจำกัดสิงคโปร์ ซื้อกระสอบป่าน 2,000 มัด ๆ ละ 400 ใบ ราคาซี.ไอ.เอฟ.กรุงเทพฯ 188 เหรียญสิงคโปร์ต่อกระสอบ 100 ใบ เป็นเงินทั้งสิ้น 1,492,000 เหรียญสิงคโปร์ โดยสัญญาจะเปิดเครดิตใช่ราคาสินค้าที่ส่งมาเป็นงวด ๆ หลังจากเซ็นสัญญากันแล้ว จำเลยที่ 1 เป็นผู้เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตชนิดเพิกถอนไปไม่ได้และโอนกันได้สำหรับใช้ราคาสินค้ารายนี้ และโดยคำสั่งของจำเลยที่ 1 ธนาคารโอเวอร์ซีสยูเนียนแห่งสิงคโปร์ได้แจ้งการเปิดเครดิตไปยังบริษัทเฟรนคอมเมอร์เชียลจำกัดแล้ว ต่อมาบริษัทเฟรนคอมเมอร์เชียลได้ขอให้โจทก์เป็นผู้ส่งกระสอบและโอนเครดิตทั้งหมดให้แก่โจทก์ โจทก์ได้ส่งกระสอบป่านตามปริมาณและคุณภาพที่ระบุไว้ในเลตเตอร์ออฟเครดิตมากรุงเทพฯ แล้ว โจทก์ได้นำตั๋วสั่งจ่ายเงินจากจำเลยที่ 2 มีเอกสารการส่งของลงเรือครบถ้วนยื่นต่อธนาคารกองตัวเนซีโอนาลกองเดอปารีสแห่งเมืองกัลกัตตา เพื่อส่งมาเบิกเงินจากจำเลยที่ 1 ธนาคารที่ว่านี้ได้สลักหลังตั๋วสั่งจ่ายเงินนั้นมายังธนาคารอินโดจีนที่กรุงเทพฯ เพื่อเก็บเงิน ปรากฏว่ากระสอบป่านลงราคาจำเลยที่ 2 เปี่ยงบ่ายความรับผิดตามสัญญาและเมื่อธนาคารอินโดจีนมาขอเบิกเงินจากจำเลยที่ 1 ๆ จึงไม่ยอมจ่าย บริษัทเฟรนคอมเมอร์เชียลจำกัด จึงได้โอนสิทธิตามสัญญาซื้อขายให้โจทก์และบอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้ว กระสอบงวดแรกได้ส่งมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว 1,000 มัด กระสอบงวดที่ 2 อีก 1,000 มัดรอลงเรือที่กัลกัตตา เมื่อจำเลยปฏิเสธ โจทก์จึงขายทอดตลาดแล้วหักราคากันแล้วยังขาดเงินอีก 3,534,857 บาท จึงขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหาย ถ้าศาลเห็นว่าจำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดก็ขอให้บังคับให้จำเลยที่ 2 รับผิดชดใช้ค่าเสียหาย

จำเลยที่ 1, 2 ให้การปฏิเสธความรับผิด

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหาย 3,534,857 บาทแต่จำเลยที่ 2 ไม่วินิจฉัยเพราะโจทก์ขอให้รับผิดต่อเมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีความรับผิด

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ในข้อที่ให้จำเลยที่ 1 รับผิด ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นความรับผิดของจำเลยที่ 2 ต่อไป

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยที่ 1 ออกเลตเตอร์ออฟเครดิตไปเท่ากับเป็นการทำคำเสนอไปยังบริษัทเฟรนคอมเมอร์เชียลจำกัดหรือผู้รับโอนให้ส่งกระสอบดังระบุในเลตเตอร์ออฟเครดิต เมื่อได้มีการส่งกระสอบป่านมาก็ยอมถือได้มีคำสนองก่อให้เกิดสัญญาขึ้น ปัญหาที่ว่าโจทก์ได้ปฏิบัติตามเลตเตอร์ออฟเครดิตถูกต้องหรือไม่นั้นเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ปฏิบัติถูกต้องแล้วจำเลยไม่ยอมจ่ายเงินให้เพราะราคากระสอบในกรุงเทพฯ ลดลงมาก จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิด แต่เลตเตอร์ออฟเครดิตคิดที่จำเลยที่ 1 ออกไปนั้นสำหรับกระสอบ 1,000 มัด เท่านั้น จึงคงรับผิดเพียง 1,749,471 บาทกับดอกเบี้ย ส่วนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาเกี่ยวกับจำเลยที่ 2 นั้นไม่เป็นประเด็นขึ้นมา ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัย

Share