คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ถูกจำเลยควบคุมในข้อหาเป็นบุคคลอันธพาลตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 21 นั้น มิใช่เป็นโทษหรือเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 และ39 แม้จำเลยจะกระทำเพื่อแกล้งโจทก์ก็ไม่เป็นผิดตาม มาตรา 200

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2507 จำเลยได้จับกุมโจทก์ในข้อหาว่า จ้าง วาน ใช้ นายสิน บุญสุข วางเพลิงตลาดจังหวัดร้อยเอ็ดจำเลยได้ควบคุมกักขังโจทก์และสอบสวนปากคำเสร็จตั้งแต่วันที่9 กุมภาพันธ์ 2507 อำนาจของจำเลยควบคุมโจทก์ได้ไม่เกินวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2507 ครั้นวันที่ 13 เดือนเดียวกันนั้น จำเลยได้กล่าวหาโจทก์ว่าเป็นบุคคลอันธพาลทั้งประเภท 1-2 ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 21 และมีคำสั่งกักขังโจทก์ 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2507 จนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2507 การกระทำของจำเลยเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ปฏิบัติโดยมิชอบ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200 และ 310

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องของโจทก์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 310

โจทก์อุทธรณ์ว่า คดีโจทก์มีมูลตามมาตรา 200 ด้วย

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่โจทก์ถูกควบคุมในข้อหาว่าเป็นบุคคลประพฤติตนเป็นอันธพาลตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 21 มิใช่เป็นโทษหรือเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยตามประมวลกฎหมายอาญาแล้วแม้จำเลยจะกระทำเพื่อแกล้งโจทก์จริง ก็ไม่เป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 200 พิพากษายืน

Share