คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1769/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำให้การของ ร.ชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า เมื่อไม่ได้ตัวร.มาเบิกความที่ศาล เพราะถูกคนร้ายลอบยิงตายเสียก่อน แม้จะมีน้ำหนักน้อย แต่ก็ใช้เป็นคำประกอบคำเบิกความของพยานอื่นได้(อ้างฎีกาที่ 692/2499)
เมื่อเจ้าพนักงานจับ ส.ได้ส.ให้การว่าจำเลยและส. ได้ไปทำการปล้นพนักงานสอบสวนกัน ส.ไว้เป็นพยาน ส.มาเบิกความยืนยันข้อความดังกล่าว คำของ ส. ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดและโจทก์กันไว้เป็นพยาน เป็นคำพยานที่รับฟังได้ (อ้างฎีกาที่ 200/2474) แต่มีน้ำหนักน้อย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 83 ฯลฯ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 4 มีความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนยิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 83 ให้จำคุกจำเลยไว้คนละ 20 ปี จำเลยที่ 3 อายุ 18 ลดมาตราส่วนโทษให้ 2 ใน 3และให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน ลดให้อีก 1 ใน 3 จำคุกจำเลยที่ 3มีกำหนด 8 ปี 10 เดือน 20 วัน ฯลฯ

จำเลยทั้ง 4 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าคำให้การของนายรอดชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า เมื่อไม่ได้ตัวนายรอดมาเบิกความที่ศาลเพราะถูกคนร้ายลอบยิงตายเสียก่อน แม้จะมีน้ำหนักน้อย แต่ก็ใช้เป็นคำประกอบคำเบิกความของพยานอื่นได้ (ตามนัยฎีกาที่ 692/2499)

เมื่อเจ้าพนักงานจับนายสนั่นได้ นายสนั่นก็ให้การรับว่าจำเลยทั้ง 4 และนายสนั่นได้ไปทำการปล้นกระบือรายนี้ พนักงานสอบสวนได้กันนายสนั่นไว้เป็นพยาน นายสนั่นได้มาเบิกความยืนยันข้อความดังกล่าว คำของนายสนั่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดซึ่งโจทก์กันไว้เป็นพยาน เป็นคำพยานที่รับฟังได้ (อ้างฎีกาที่ 200/2474) แม้จะมีน้ำหนักน้อย

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1, 2, 3 กระทำผิดฐานปล้นทรัพย์จริง ส่วนสำหรับจำเลยที่ 4 พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอลงโทษ

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำเลยที่ 1, 2, 3ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น สำหรับจำเลยที่ 4 ให้ยกฟ้องโจทก์ ฯลฯ

Share