คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1761/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ตำรวจบอกให้จำเลยไปสถานีตำรวจโดยลำพังเพราะรู้จักจำเลยดี ยังไม่ถูกจับและควบคุม ยังไม่มีการหลบหนีตามมาตรา190

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 6 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 190 รวมกับโทษที่รอไว้อีก 4 เดือน เป็น 10 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดฐานหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความตามที่โจทก์จำเลยนำสืบรับกันว่าวันเกิดเหตุ จำเลยนำคนงานไปรื้อเรือนนายอ่อนและขนไม้ที่รื้อขึ้นรถบรรทุก มีพันตำรวจตรี สันติ ศรีสง่า กับพวกเดินทางไปถึงได้สอบถามจำเลยและบอกให้จำเลยไปสถานีตำรวจ โจทก์อ้างว่า จำเลยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแล้ว แต่พันตำรวจตรีสันติ ศรีสง่า พยานโจทก์เบิกความว่า การที่ปล่อยให้จำเลยไปสถานีตำรวจโดยลำพังเพราะรู้จักจำเลย เพื่อให้เกียรติจำเลย และสิบตำรวจเอกสวัสดิ์ งามประเสริฐ (ขณะเกิดเหตุยศสิบตำรวจโท) พยานโจทก์เบิกความว่าที่ตำรวจไม่ทำการจับกุมจำเลยทันที ก็เพื่อให้เกียรติ เห็นว่าจำเลยเป็นพ่อค้าถ้าหากจะใช้กำลังจับกุมทันทีก็ทำได้ แสดงว่าขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจมิได้จับกุมจำเลย รูปเรื่องน่าเชื่อตามที่จำเลยนำสืบว่า พันตำรวจตรีสันติ ศรีสง่าบอกให้จำเลยไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ จำเลยยังมิได้ถูกควบคุมตัวหรือควบคุมตามกฎหมายพยานโจทก์ไม่มั่นคง คดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา”

พิพากษายืน

Share